“อีกไม่นานมนุษย์จะมีร่างกายใหม่ที่จะเลือนเส้นแบ่งระหว่างธรรมชาติและโลกของสิ่งสังเคราะห์ไปตลอดกาล”
ถ้อยคำของ Hugh Herr นักออกแบบชีวประดิษฐ์ หรือ bionics designer ผู้เป็นนักปีนเขาระดับอัจฉริยะ เขาประสบอุบัติภัยจากพายุหิมะจนต้องเสียขาทั้งสองข้างไปเพราะหิมะกัด Herr ไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัดทางร่างกายที่ฟ้องว่า เขาไม่อาจทำสิ่งที่รักสุดชีวิตได้อีก แต่กลับมุ่งหน้าศึกษาด้านกายอุปกรณ์และออกแบบขาเทียมสำหรับตัวเองขึ้นมาได้สำเร็จ กระทั่งสามารถกลับเข้าสู่โลกของนักปีนเขาได้อย่างงดงาม
Hugh Herr พบว่าเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่กับร่างกายมนุษย์นั้นมีพัฒนาการล้าหลังอย่างน่าตกใจ รองเท้า ซึ่งมนุษย์ใช้สวมใส่มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน “รองเท้า” ที่เราใส่มานับพันปีก็ยังกัดเท้าของเราอยู่ทั้งที่เทคโนโลยีพัฒนาไปมากแล้ว
ขาเทียมที่นำมาสวมเข้ากับส่วนปลายของเท้าที่ถูกตัดออกก็เช่นกัน เขาจึงสร้างเครื่องวิเคราะห์เนื้อเยื่อขึ้นเพื่อศึกษาความยืดหยุ่นและจุดแข็งจุดอ่อนของโคนขาแล้วสร้างขาเทียมที่สอดคล้องกับสภาพเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ผลลัพธ์ก็คือ ขาเทียมที่แนบกระชับและยืดหยุ่นได้ตามการเคลื่อนไหวของขาอย่างเป็นธรรมชาติ
ทุกวันนี้ Hugh Herr ยังทำการวิจัยอยู่ที่ MIT เพื่อพัฒนากายอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการผสมผสานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วัสดุใหม่ๆ และระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกายอุปกรณ์เข้ากับระบบร่างกายของมนุษย์
เรื่องราวของ Herr ทำให้เราอยากเข้าไปในโลกของกายอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ผลิตมันขึ้นมา หลายข้อมูลน่าสนใจจนทำให้ความพิการกลายเป็นความได้เปรียบ เช่น หัวข้อบทความที่บอกว่า
“These bionic arms make kids feel like superheroes” – แขนเทียมแบบไบโอนิกหรือ bionic arms ทำให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนเป็นยอดมนุษย์ หรือ superheroes ตอกย้ำสิ่งที่ Herr พยายามทำให้ขาของเขาสามารถปีนเขาได้ดียิ่งกว่ามนุษย์ขาปกติทั่วไปด้วยการพัฒนาการออกแบบกายอุปกรณ์ที่ล้ำหน้าจนไม่มีภูเขาลูกใดที่เขาไม่อาจพิชิตหากไม่ต้องการ
จากเรื่องราวของ Herr นำเรามารู้จักกับบริษัทหนึ่งที่กล่าวได้ว่า เปลี่ยนมุมมองที่เราเคยรู้จักอวัยวะเทียมไปโดยปริยาย Open Bionics บริษัท start-up ด้านเทคโนโลยีของอังกฤษที่มีเป้าหมายของภารกิจก็คือ การสร้างอวัยวะเทียม หรือ กายอุปกรณ์ด้วยการพิมพ์แบบ 3 มิติในราคาที่สามารถซื้อหาได้ เพราะไม่เพียงแค่ความเชื่ออันทรงพลังที่ทำให้มนุษย์เอาชนะอุปสรรคทางกายได้ แต่ต้นทุนในการเข้าถึงทรัพยกรทางปัญญาชนิดนี้ของมนุษย์อาจทำให้มนุษย์หลายคนยอมจำนน Open Bionics ผลิตอวัยวะเทียมในราคาที่ที่ถูกกว่าตลาดทั่วไปถึง 30 เท่า พวกเขาใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์แนบเข้าไปที่ผิวหนังเพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อซึ่งควบคุมมือและการกำเข้าและคลายออกของนิ้ว
Open Bionics ร่วมมือกับ National Health Service (NHS) ในอังกฤษ ในขณะที่ NHS ใช้งบประมาณราว 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีสำหรับบริการด้านกายอุปกรณ์
“ฉันคิดว่าสิ่งที่เจ๋งที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ รากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้พิการจริงๆ ไม่ใช่แค่การออกแบบโซลูชันสำหรับพวกเขา แต่พวกเขากำลังช่วยเราในการออกแบบโซลูชันต่างหาก แน่นอนว่า ฉันคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นจริงๆ ในอนาคตอันใกล้นี้เรากำลังโฟกัสไปที่การเปิดตัวแขนขาเทียมไบโอนิกแบบ 3D ที่พิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรก สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับงานของฉันคือ การได้เห็นคนที่ถูกติดตั้งแขนขาแบบไบโอนิกเป็นครั้งแรกและนั่นคือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ขณะที่เด็กเล็กๆ มักเข้าไม่ถึงอุปกรณ์เหล่านี้เพราะมันไม่มีขนาดที่เล็กพอสำหรับพวกเขา หรือไม่ก็มีราคาแพงเกินไป ดังนั้นพ่อแม่ของพวกเขาจึงไม่สามารถจัดหาให้พวกเขาได้ ดังนั้นคุณคงเข้าใจแล้วว่า การได้เห็นเด็กๆ สามารถขยับนิ้วมือแต่ละนิ้วได้เป็นครั้งแรกมันยอดเยี่ยมเพียงใด”
Open Bionics กำลังทำงานเกี่ยวกับแขนเทียมที่ส่งตรงมาจากจักรวาลนิยายวิทยาศาสตร์ โดยมีธีมจาก Marvel, Disney และ Star Wars เป้าหมายก็คือการทำให้เด็ก ๆ รู้สึกภาคภูมิใจกับแขนขาเทียมของพวกเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนภาพของแขนขาเทียมจากที่เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ทางการแพทย์สู่แขนขาแบบ Bionic ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายนั่นเอง
“ฉันได้รับแรงบันดาลและแรงกระตุ้นจากแขนขาเทียมในนิยายวิทยาศาสตร์ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ก็คือแขน bionics ที่มาจากจักรวาลนิยายวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่เคยปรากฏอยู่ในชีวิตจริงก่อนหน้านี้ พวกมันอาจมีอยู่ตัวละครของดิสนีย์ อย่างเช่น เกราะของ iron man ในวีดีโอเกมของ DsX ในแขนของ Adam Jensen ความจริงก็คือ เรานำแขนมาจากตัวละครเหล่านั้น การพิมพ์แบบ 3D พิมพ์พวกมันออกมาและสร้างมันขึ้น จากนั้นก็มอบให้กับผู้พิการ แขนเหล่านี้ดูทันสมัย มีสไตล์และดูเพรียวบางมาก ทำให้บุคลิกของพวกเขาน่าสนใจและเป็นที่กล่าวขวัญนั่นคือเรื่องที่น่าตื่นเต้นจริงๆ”
แขน Bionic ใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงในการพิมพ์แบบ 3D แขนขาของผู้พิการแต่ละคนจะถูกสแกนด้วย tablet จากนั้นก็จะมีการออกแบบขึ้นมา สุดท้ายคือการพิมพ์แบบ 3D ที่ทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ข้อตกลงระหว่าง บริษัทดิสนีย์และโอเพ่นไบโอนิคส์ก็คือจะไม่มีการเก็บค่าลิขสิทธิใดๆ จากการนี้ ซึ่งหมายถึงการออกแบบที่จะมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทเล็งเห็นอนาคตของการทำกายอุปกรณ์ที่มีล้ำสมัยและสามารถเข้าถึงได้อย่างไร้ข้อจำกัด
“อนาคตของกายอุปกรณ์ก็คือ ต้นทุนต่ำ น้ำหนักเบา ความคล่องตัวที่มากขึ้น การควบคุมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ และในอนาคตข้างหน้ามันจะกลายเป็นความพิเศษของร่างกายมนุษย์ (hyper-personalization)”
ไม่ใช่ปมด้อยแต่อย่างใด
อ้างอิง:
https://www.businessinsider.com/open-bionics-prosthetic-arms-2018-2?r=UK&IR=T
https://edition.cnn.com/2017/11/14/health/ambionics-prosthetic-arm/index.html
About The Author
You may also like
-
อินฟอร์มาฯ สานต่อความร่วมมือ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดงาน “Electric Vehicle Asia 2024” ยกระดับการผลิตไทยสู่การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
-
Guangzhou Industrial Technology และ Asiamold Select 2024 – Guangzhou กำลังจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
-
อินฟอร์มาฯ จับมือ TESTA เสริมทักษะ ความรู้ ความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน ในงาน “Energy Storage Asia 2024” ขานรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
-
Quantix Ultra เทอร์โมพลาสติกทนไฟได้ถึง 1,200°C เพิ่มความปลอดภัยให้รถ EV
-
Ford พลิกโฉมเศษเหลือทิ้งจากต้นมะกอกให้กลายเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ที่ยั่งยืน