ตัวต่อเลโก้ เครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกเครื่องแรกของเดนมาร์ก

60 ปี Lego จากของเล่นธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ปีนี้ ‘เลโก้’ หนึ่งในของเล่นที่เป็นที่นิยมมากที่สุดกำลังเฉลิมฉลองวาระครบรอบปีที่ 60 ได้เวลามองย้อนกลับไปดูประวัติความเป็นมาของบริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่สัญชาติเดนมาร์กแห่งนี้กัน

สำหรับบางคนของเล่นในความทรงจำวัยเด็กอาจเป็นตุ๊กตาบาร์บี้  บางคนอาจเป็นเกมส์บอย ไม่ก็ เพลย์สเตชั่น  แต่สำหรับคนอีกมากมายของเล่นสุดโปรดในวันเยาว์ก็คือตัวต่อเลโก้ ก้อนอิฐก่อสร้างจำลองชิ้นน้อยๆ ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงมาถึงทุกวันนี้ แม้ว่าห้องเด็กเล่นจะถูกทิ้งร้างไปนานแล้ว ขณะที่แฟ้มผลงานถูกพัฒนาไปไกลจนถึงเทคนิคการต่อเลโก้เป็นชุดที่สุดแสนจะซับซ้อน ที่สร้างชื่อเสียงมากๆ ก็คือพวกรถบรรทุกและเครื่องยนต์กลไกที่มีชิ้นส่วนฟังค์ชั่นมากมาย แต่ชุดก่อสร้างที่เรียบง่ายสำหรับเด็ก เช่น โรงพยาบาลประจำเมือง หรือ รถไฟเลโก้ก็ยังมีอยู่ ต่อมาโมเดลก่อสร้างที่มีความซับซ้อนสูงก็ได้ถูกเพิ่มเข้าไปอีกเช่น Buckingham Palace ในชุดสถาปัตยกรรมของเลโก้ หรือชุดที่กลายเป็นของสะสมไปแล้ว เช่น Lago Star War Millenium ซึ่งประกอบด้วยอิฐตัวต่ออาคารมากกว่า 7,000 ชิ้น จนถึงเวลานี้ของเล่นสัญชาติเดนมาร์กแบรนด์นี้ได้เข้าถึงผู้เล่นที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว

เลโก้มีผลิตภัณฑ์อีกมากมายนอกเหนือจากวัสดุในโลกของเล่น เช่น เกมส์คอมพิวเตอร์ (ตัวอย่างเช่น Lego Harry Potter เป็นต้น) รายการโชว์ทางโทรทัศน์ เช่น Ninjago หรือ Legends of Chima และในปี 2014 ก็มีการผลิตภาพยนตร์เป็นครั้งแรก เลโก้ได้กลายมาเป็น multimedia-based ถูกเก็บรักษาไว้ด้วยจิตวิญญาณแห่งกาลเวลา ตัวต่ออิฐกลายเป็นลัทธิของคนยุคหนึ่งมานานแล้ว ไม่เว้นแม้แต่กับคนที่ไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน เป็นเวลาหลายปีหรือแม้แต่หลายทศวรรษพวกเขาก็ยังนึกถึงแบรนด์เลโก้ด้วยความรู้สึกในเชิงบวก สำหรับบางคนอิฐตัวต่อชิ้นเล็กๆ หลากสีสันของเลโก้คือจุดเริ่มต้นของอาชีพด้านวิศวกรรม

อิฐตัวต่อของเลโก้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของห้องเด็กเล็ก ๆ จากการออกแบบที่เรียบง่ายและแยบยลของพวกเขา ทุกวันนี้เครื่องมือเครื่องจักรในการผลิต (production facilities) ของเลโก้ที่มีการผลิตชิ้นส่วนรวมกันสูงกว่าจำนวนประชากรโลกรวมกันถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตามก้าวแรกของเลโก้เมื่อหลายสิบปีก่อนเริ่มต้นขึ้นอย่างทุลักทุเล

เครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกเครื่องแรกของเดนมาร์ก

ในปี 1949 โอเล่ เคิร์ค คริสเตียนเซ่น ผู้ก่อตั้งเลโก้ และ Gotfried ลูกชายได้ดัดแปลง “Automatic Binding Brick” ของ ฮิลลารี่ ฟิชเช่อ เพจ นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษด้วยการย่อขนาดอิฐตัวต่อลง 0.1 มิลลิเมตรแล้วบดขอบ อิฐตัวต่อล็อคได้ด้วยตัวเองนี้เป็นทรงลูกเต๋าทำจากเส้นใยสังเคราะห์ที่ทำจากสารประกอบ acetic ester ของเซลลูโลส ด้านบนมีปุ่มสี่ปุ่มในสองแถว คล้ายกับอิฐตัวต่อในปัจจุบัน แต่ก็มีโพรงอยู่ด้านใน ผลก็คือทำให้การก่อสร้างขึ้นรูปทรงไม่มั่นคงเท่าที่ควร แรงกระทบเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ตัวอาคารอิฐพังลงมาได้ อีกหนึ่งปัญหาก็คือ “jumping effect” เมื่อนำส่วนประกอบอิฐสองส่วนมาประกอบกัน ไม่นานนักชิ้นส่วนสองส่วนนั้นก็เด้งออกจากกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดยอดขายในเวลานั้นของเลโก้จึงไม่ดีนัก

เพียงแค่สามปีก่อนหน้านั้น คริสเตียนเซ่นเป็นผู้ผลิตของเล่นรายแรกของเดนมาร์กที่ซื้อเครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกมาใช้ การลงทุนนี้ทำให้บริษัทเสียค่าใช้จ่ายเป็นสองเท่าจากผลกำไรของปีก่อน สำหรับคริสเตียนเซ่น ช่างไม้ระดับมาสเตอร์ผู้ฝึกฝนร่ำเรียนมาทางสายการผลิตของเล่นไม้ นับว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง

ในปี 1958 เขาและลูกชายยื่นขอจดสิทธิบัตรในกรุงโคเปนไฮเกนเพื่อพัฒนาอาคารอิฐตัวต่อล็อคได้ด้วยตัวเองต่อไป ต่อมาไม่นาน พวกเขาก็ได้สร้างชื่อให้กับ อิฐ ในเวลานั้นเรียกว่า “Lego Mursten” ในภาษาเดนนิช แปลว่า “Lego bricks” ทำให้ปัญหาเรื่อง jumping effect และเรื่องความมั่นคงต่ำหายไปด้วยท่อที่พัฒนาขึ้นเองและระบบขั้วต่อลูกบิด (knob connectors system)

นอกจากนี้อิฐตัวต่อยังทำจากพลาสติก acrylonitrile butadiene styrene (ABS) แบบแข็งซึ่งทนต่อการเป็นรอยขีดข่วนและทนต่อการกัดกร่อน การปรับเปลี่ยนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของอิฐตัวต่อเลโก้ คือดูธรรมดาเหมือนกับที่หน่วยแต่ละหน่วยเป็น แต่กว้างขวางครอบคลุมเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยโมดูลที่มีแปดหัวหกหัวธรรมดาๆ นี้ทำให้มีชุดค่าผสมที่เป็นไปได้มากกว่า 915 ล้านชุด

แน่นอนว่า บริษัทเลโก้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงยาวนานนับตั้งแต่มีเครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกไม่กี่เครื่องในโรงงานขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเมือง Billund ประเทศเดนมาร์ก “กว่าร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์เลโก้ผลิตในโรงงานเลโก้ในเดนมาร์ก สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และเม็กซิโก นอกจากนี้โรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศจีนยังเปิดทำการเมื่อปลายปีพศ. 2559 ” Kathrin Trowitz ตัวแทนประชาสัมพันธ์ของภูมิภาค Lego DACH (เยอรมนีออสเตรียและสวิสเซอร์แลนด์) กล่าว “ระหว่างร้อยละ 70 ถึง 80 ของผลิตภัณฑ์เลโก้ทั้งหมดที่ขายในเอเชียจะผลิตใน Jiaxing ทางใต้ของเซี่ยงไฮ้”

ความคืบหน้าทางเทคนิคทำให้เกิดความเป็นไปได้ วันนี้กระบวนการผลิตทั้งหมดรวมถึงเวลาในการทำความเย็นใช้เวลาประมาณ 10 วินาที เม็ดพลาสติกถูกให้ความร้อนประมาณ 230 ถึง 310 องศาเซลเซียสก่อนฉีดและกดลงในแม่พิมพ์ฉีดขึ้นรูปที่ 2,000 บาร์ อิฐก่อสร้างจากชุดที่ขายไม่ออกสามารถนำมาหลอมอีกครั้งและนำมาแปรรูปเป็นอิฐใหม่

Green bricks ตัวต่อเพื่อสิ่งแวดล้อม

ประมาณร้อยละ 1 ถึง 2 ของผลิตภัณฑ์เช่น ใบไม้ พุ่มไม้ และต้นไม้ไม่ได้ทำจากพลาสติก ABS แต่เป็น polyethylene ข้อมูลจากเลโก้ระบุว่า นับจากปี 2018 เป็นต้นไป ตัวต่อเลโก้จะผลิตขึ้นจาก sustainable polyethylene และเอทานอลที่ได้จากอ้อยจะถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตด้วยขณะเดียวกันขอบเขตของผลิตภัณฑ์ยังเติบโตขึ้น ขณะนี้มีโมเดลโมดูลที่แตกต่างกันกว่า 3,700 โมดูล จากแค่เพียง 5 โมเดลก่อนหน้านี้ที่คุณเลือกมาจากสีกว่า 60 สี ปัจจุบันมีอิฐตัวต่อเลโก้ประมาณ 80 แบบสำหรับทุกคนทั่วโลก อย่างไรก็ตามหลักการก่อสร้างยังไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนประกอบจากสายการผลิตในปัจจุบันยังเหมาะกับส่วนประกอบจากทศวรรษที่ 1960

About The Author