4.0 เริ่มได้จริง ๆ มารู้จัก Cubitron™ II นวัตกรรมจากจุดที่เล็กที่สุดโดย 3M

ก้าวแรกสู่ Industry 4.0 อย่างง่ายด้วย Hand Tools – ช่วงนี้กระแส 4.0 ยังมาเรื่อย ๆ บ้างก็เชียร์ให้ลงทุนระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ บ้างก็ว่าต้อง IIoT หรือซื้อเครื่องจักรใหม่ ถ้าไม่ลงทุนนะวันหน้าต้องตายแน่ (แต่ถ้าลงทุนตอนนี้ก็ตายทันที!!) แต่รู้ไหมว่าที่จริง SME ไทยสามารถเดินก้าวแรกสู่ 4.0 ได้ไม่ยากอย่างที่กลัว โดยประเด็นขั้นเบสิคที่เราอยากให้คุณลองพิจารณาคือเรื่อง ประสิทธิภาพ และ ความยืดหยุ่น ที่เริ่มจากของที่เล็กและง่ายที่สุดในโรงงานคุณ เช่น เครื่องมือตัด/เจียร หรือวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ

ผมเปิดบทความด้วย Quote จากนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ชาวอเมริกัน เพราะรู้สึกว่ามันอธิบายแนวคิดอย่างง่ายของ Transformation คือการทุ่มเทลงในจุดที่เล็กที่สุดอย่างใส่ใจที่สุด ซึ่งแม้มันจะเป็นแค่ 1% แต่ถ้าเรา Multiply มันอย่างจริงจังและต่อยอดศักยภาพก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างได้อย่างชัดเจน (เพราะมันเล็กจนคนอื่นมองข้าม)

นวัตกรรม Cubitron™ II จาก 3M เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ยอดเยี่ยม จากจุดที่เล็กที่สุดของพื้นผิวสัมผัสของอุปกรณ์ในงานขัดหรือกระดาษทราย สร้างความแตกต่างชัดเจนทั้งกายภาพ คุณภาพ และความคุ้มค่าแบบวัดได้จริง วันนี้ MM ขอพาทุกคนมารู้จักกับนวัตกรรมดังกล่าวว่าความเจ๋งของมันเป็นอย่างไร และทำไมมันถึงควรจะอยู่ในโรงงานของคุณ

รู้จักกับนวัตกรรม Cubitron™ II

Cubitron™ II เป็นนวัตกรรมที่ 3M พัฒนาขึ้นมาสำหรับจัดการกับพื้นผิวด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น ใช้ได้ทั้งงานตัด งานเจียรรวมถึงงานขัดวัสดุ ครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรมหนัก เรือเดินสมุทร โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเดินทางต่างๆ ไม่ว่าจะใช้ในงานซ่อมบำรุงหรืองานโลหการที่ต้องการชิ้นงานคุณภาพสูง สร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนให้กับผู้ใช้ซึ่งสัมผัสได้ในทันที

นวัตกรรมนี้ใช้การออกแบบ Precision-Shaped Grain หรือเป็นการออกแบบให้เม็ดเกรนมีขนาดและรูปทรงที่มีลักษณะสม่ำเสมอความคมสูง และมีโครงสร้างมุมเฉือนที่เอื้อต่อการรักษาความคมเมื่อเกรนนั้นเกิดการสึกหรอ ซึ่งเม็ดเกรนในกลุ่มงานตัดหรือขัด โดยทั่วไปมักจะมีรูปทรงที่ไม่สม่ำเสมอ การที่รูปทรงของเกรนไม่มีรูปแบบที่แน่นอนส่งผลโดยตรงต่อพื้นผิวชิ้นงาน ที่ไม่เรียบ และต้องใช้เวลาในการขัดนานกว่า ทั้งยังส่งผลให้อุปกรณ์สึกหรออย่างรวดเร็ว ความล่าช้าและความสูญเสียในกระบวนการทำงานจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทำให้การผลิตเกิดปัญหาส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในท้ายที่สุด

ความแตกต่างเล็ก ๆ สร้างความสำเร็จใหญ่ ๆ

จากรายละเอียดในจุดที่เล็กที่สุดอย่างรูปทรงของเกรนที่มีความแน่นอน ทำให้การเจียร การขัด หรือการตัด มีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น สามารถตัดได้เร็วกว่าใบตัดทั่วไป 30% ในขณะที่อายุการใช้งานยืนยาวขึ้น 2 เท่า นั่นหมายถึงการใช้แรงน้อยลง ลดความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ ได้ชิ้นงานที่คุณภาพดีกว่า ประหยัดเวลา เพิ่ม Productivity แน่นอนว่าการทุ่นแรงนั้นสามารถลดโอกาสบาดเจ็บและสร้างความคุ้มค่าให้กับช่วงเวลาปฏิบัติงานของแรงงาน เป็นผลดีทั้งผู้ประกอบการและสวัสดิภาพของแรงงานที่เห็นผลได้ตั้งแต่เริ่มใช้ รวมถึงผลดีในระยะยาวอีกด้วย

สิ่งที่ MM ประทับใจเป็นอย่างมาก คือ นวัตกรรมที่สามารถสร้างความแตกต่างได้จริง ๆ ต้องพิสูจน์ได้และอยากให้ทุกคนได้สัมผัสด้วยตัวเอง ซึ่งทาง 3M ได้ทำคลิปวีดีโอเปรียบเทียบความคุ้มค่าของเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี Cubitron™ II โดยทำได้อย่างเป็นมาตรฐาน โดยมีการเปรียบเทียบที่เข้าใจง่ายและวัดผลเป็น

ตัวเลขอย่างชัดเจนซึ่งผมมองว่านำไปใช้อ้างอิงได้เป็นอย่างดี ส่วนถ้าตอนใช้งานจริงใครจะได้ผลลัพธ์อย่างไรอยากให้ผู้อ่านลองทดสอบดูแล้วนำมาบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์กันครับ

Cubitron(TM) II Belt

การเปรียบเทียบใบเจียร

Robot with Cubitron(TM) II Fibre Disc

ความรู้สึกในการใช้งานจริง

นอกจากการพิสูจน์ด้วยวีดีโอจาก 3M แล้ว เรายังได้พูดคุยกับคุณภิมุขภัค ชื่นกำเหนิด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สุพัฒน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งทำธุรกิจด้าน Paint Finishing Product งานโครงสร้างเหล็ก และ Mechanic Deck ซึ่งต้องใช้งานเครื่องมือขัด ตัด เจียร เป็นประจำ

“ผมใช้สินค้าของ 3M หลายตัวแต่ที่ใช้หลัก ๆ เลยจะเป็นใบเจียรทอง ใบตัด หรือ Scotch Brite” เมื่อถามถึงความแตกต่างของ Cubitron™ II คุณภิมุขภัคเล่าว่า “เรื่องแบบนี้ต้องลองใช้ด้วยตัวเอง ส่วนตัวผมชอบใบเจียรทองของ 3M มาก ๆ เพราะมันเจียรได้นาน เจียรได้คม ทำงานได้รวดเร็วและออกมาสวย แถมยังทนมาก ๆ ทีมช่างบอกว่าสะเก็ดไฟน้อยลงรู้สึกปลอดภัย ใบก็ไม่แตกง่ายอายุการใช้งานยืนยาว ประหยัดต้นทุนค่าไฟและค่าแรงได้มาก”

“ถ้าได้ลองยี่ห้ออื่นมาก่อน จะเห็นได้เลยว่า 3M ทำงานได้ไวกว่า ในเวลาเท่ากันจะได้ชิ้นงานที่เยอะขึ้น ใบก็ไม่เคยแตก ทำให้ส่งงานได้ตรงเวลา เคยวัดกันดูถ้าใช้ใบเจียร 3M Cubitron™ II 1 ใบ จะเท่ากับใช้ใบเจียรยี่ห้ออื่น 5-6 ใบเลย ทุกคนก็ลงความเห็นว่าใช้ใบเจียร 3M ไปเรื่อย ๆ ดีกว่า”

พอใจกันตั้งแต่หัวหน้ายันลูกน้อง

“ในฐานะคนทำธุรกิจ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่สำคัญมาก ๆ ใบเจียรแม้เป็นวัสดุสิ้นเปลืองแต่ถ้ามองอีกมุมมันคือปัจจัยการผลิตที่มีความยืดหยุ่นสูง ถ้าชำรุดหรือเปลี่ยน Job ก็แค่เปลี่ยนใบใหม่ งั้นทำไมเราไม่พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนเล็ก ๆ นี้ให้มันเกิดผลเป็นรูปธรรมล่ะ มันง่ายกว่าการลงทุนเครื่องมือเครื่องจักรใหม่ที่แม้จะมีความสามารถมากกว่าแต่ก็ขาดความยืดหยุ่นแถม fixed cost ก็สูง

พอเรื่องเล็ก ๆ มันเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้เราได้จริง ก็รู้สึกมีส่วนร่วมกันทั้งโรงงาน เพราะเราไม่ได้มัวห่วงแค่ว่าจะต้องซื้อของราคาถูกที่สุด แต่เราซื้อของที่คุ้มที่สุด แค่ใบเจียรทอง 3M ก็เป็นตัวนำร่องไปสู่การลดต้นทุนระยะยาวในเรื่องอื่น ๆ และการทำ Lean Manufacturing” คุณภิมุขภัคทิ้งท้าย

สรุป

จะเห็นได้ว่า แม้ของใช้เล็ก ๆ อย่างกระดาษทรายแต่ถ้ามีนวัตกรรมก็สามารถลดต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นเวลา ลดการแก้ไขชิ้นงาน รวมถึงสร้างความคุ้มค่าสำหรับอุปกรณ์ได้ สมมติถ้าคุณทำงานโลหะที่ต้องการคุณภาพสูง ลองคิดดูว่าคุณยังสามารถทำอะไรให้งานขัด ตัดเจียร เกิดความแตกต่างอะไรขึ้นบ้าง? ต้นทุนแฝงจากใบเจียรแตก Downtime ในการทำงาน หรือการบาดเจ็บของช่างตอนนี้เป็นอย่างไร? ช่างมือหนึ่งของคุณกลายเป็นลูกจ้างหนึ่งมือกันอยู่หรือเปล่า? คุณนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้กับวัสดุสิ้นเปลืองอื่น ๆ ได้อีกไหม?

ผมแนะนำให้ลองกวาดตามองรอบโรงงานแล้วหยิบปากกาจดเลยครับแล้วเดี๋ยวคำตอบจะมาเอง

ขอบคุณ 3M สำหรับข้อมูลครับ ผู้อ่านท่านใดที่อยู่ในงานฟิลด์นี้สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.3m.com/3M/en_US/cubitronII-us/ เวบเป็นภาษาอังกฤษนะครับ สำหรับในไทยก็มีสินค้ากลุ่ม Cubitron™ II เข้ามาจำหน่ายแล้วหลายตัว ลองเลือกดูได้ที่เวบ 3Mdelivery.com ครับ

เกี่ยวกับ Cubitron™ II

นวัตกรรม Cubitron™ II เป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์กลุ่มอุปกรณ์ขัดหรือกระดาษทรายของ 3M และผลิตภัณฑ์ Scotch Brite สำหรับงานอุตสาหกรรมซึ่งมีการใช้ Precision-Shaped Grain เช่นกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี Cubitron™ II จาก 3M ที่ใส่ใจตั้งแต่จุดที่เล็กที่สุดสามารถส่งต่อศักยภาพในการทำงานที่ได้มาตรฐาน สร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ผลิต และส่งมอบคุณค่าที่มืออาชีพพึงพอใจ

---

ที่มา:

• 3M.com
• www.mmthailand.com/cubitronii-นวัตกรรมจาก-3m/

About The Author