จับตาตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลของ 4 ยักษ์ใหญ่

ยุโรป จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นเป็นตลาดหลักสำหรับภาควิศวกรรมเครื่องกล MM International ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดที่มีพลวัต (dynamic markets) เหล่านี้ ท่ามกลางนโยบายระดับโลกเช่น นโยบายการค้าของทรัมป์และข้อตกลงของ Brexit

“หล่อโลก หลอมอาณาจักร ขึ้นรูปจักรวาล เชื่อมทั้งหมดให้เป็นเครือข่าย เพราะเราเป็นคน เราเป็นเครื่องจักรและเราเป็นวิศวกรเครื่องกล” (Casting the world, forging the campus, shaping the universe, welding the rest of all branches, because we are the men, we are the machine, and we are Mechanical Engineers.) คำพูดยอดนิยมนี้อธิบายตัวมันเองว่าวิศวกรรมเครื่องกลได้รับการยกย่องอย่างสูงว่าเป็น “แม่ของวิศวกรรม” และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ครองโลก คือการผลิตในปริมาณที่สูง และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ

ยุโรป

สหภาพยุโรปเป็นผู้ส่งออกเครื่องจักรรายใหญ่ที่สุดของโลก สถิติโดยคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่าวิศวกรรมเครื่องกลครองสัดส่วนร้อยละ 9.5 ของการผลิตทั้งหมดในอุตสาหกรรมการผลิตของสหภาพยุโรปและเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดภาคหนึ่งในเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ทั้งในส่วนของจำนวนผู้ประกอบการการจ้างงาน การผลิต และการสร้างมูลค่าเพิ่ม เยอรมนีเป็นหนึ่งในยักษ์ผู้มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกลระดับโลก

ในแง่ของสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน Federal Statistical Office หรือ สำนักงานสถิติแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานกลางของเยอรมนีรายงานว่า ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2018 การส่งมอบเครื่องจักรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.2% หรือ 6.5 พันล้านยูโรเป็น 131.9 พันล้านยูโรเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้รายงานจาก VDMA สมาคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ระบุว่าในไตรมาสที่สาม (กรกฎาคม – กันยายน) ของปี 2018 บริษัทด้าน วิศวกรรมเครื่องกลของเยอรมันมีการส่งออกเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 43.8 พันล้านยูโร ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้อตกลง Brexit เป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง แต่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมทั่วยุโรปต่างก็คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุด

จีน

จีนเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรรายใหญ่ที่สุดของโลกและยักษ์ใหญ่ในเอเชียรายนี้ยังพ่วงตำแหน่งผู้ส่งออกเครื่องจักรรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกด้วย จากข้อมูลที่ออกโดย China Machinery Industry Federation หรือสหพันธ์อุตสาหกรรมเครื่องจักรของจีนในกรุงปักกิ่ง การส่งออกรวมของภาคเครื่องจักรของประเทศอยู่ที่ 4.6 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2017 เพิ่มขึ้น 8.33% จากปี 2016 ในขณะที่การนำเข้าในปีเดียวกันเพิ่มขึ้น 12.31% เป็น 306.3 พันล้านดอลลาร์

การคาดการณ์การเติบโตของตลาดการผลิตเครื่องจักรจีน โดยเจ้าหน้าที่ด้านอุตสาหกรรมของประเทศมีความเห็นว่า คาดว่าผู้ผลิตจะรักษาอัตราการเติบโตของการส่งออกได้ 7% ต่อปีไว้ได้ในปีนี้จากการสนับสนุนของนโยบายริเริ่ม Belt and Road Initiative การผงาดของจีน (The rise of China) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินอุดหนุนจำนวนมากมายมหาศาลที่มีให้กับบริษัทวิศวกรรมเครื่องกลของรัฐภายใต้โครงการ ‘Made in China 2025’ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อเสียเปรียบที่สำคัญ Ulrich Ackermann M.D.การค้าต่างประเทศของ VDMA ให้ความเห็นว่า

“บริษัทวิศวกรรมเครื่องกลที่ได้รับการอุดหนุน หรือ non-market-oriented เหล่านี้กำลังมีชัยเหนือตลาดการส่งออกทั่วโลกมากขึ้นรวมถึง EU และยังบิดเบือนการแข่งขันระหว่างประเทศ”

กลยุทธ์นี้ยังทำให้อุตสาหกรรมวิศวกรรมเครื่องกลของประเทศอื่น ๆ เช่นสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรเป็นฝ่ายตามหลังอย่างช่วยไม่ได้

สหรัฐอเมริกา

รายงานโดย Statista บริษัทวิเคราะห์ตลาดออนไลน์ระบุว่า ในปี 2560/2017 ตลาดวิศวกรรมเครื่องกลของสหรัฐอเมริกามีขนาดอยู่ที่ประมาณ 401.6 พันล้านดอลลาร์ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำในพื้นที่วิศวกรรมเครื่องกล สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะโฟกัสไปที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาอุปกรณ์การผลิตขั้นสูง หรือ ระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อก้าวล้ำหน้าผู้เล่นระดับโลกรายอื่นๆ ในสนามการแข่งขัน VDMA กล่าวต่อไปว่า สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเครื่องจักรเยอรมัน การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 11.6% เป็นมูลค่าเกือบ 18 พันล้านยูโรเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ล่าสุด เช่น นโยบายการค้าของทรัมป์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลอาจได้เป็นสักขีพยานในความถดถอยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพที่เหนือกว่าในระดับ Superior และรัฐบาลญี่ปุ่นยังส่งเสริมแนวคิดของ ‘อุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อกัน’ หรือ Connected Industry เพื่อเปลี่ยนภูมิทัศน์ของประเทศจากการผลิตแบบดั้งเดิมก้าวล้ำไปสู่การผลิตขั้นสูง กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ยังระบุด้วยว่า การผลิตขั้นสูงเป็นหนึ่งในภาคการเติบโตที่สำคัญของญี่ปุ่นและได้คาดการณ์ว่าจะมีขนาดถึงประมาณ 270 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอย่าง IoT และ Smart Factory applications ในเครื่องจักรกลด้วย

ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลัก (core machinery orders) ในญี่ปุ่นลดลง 18.3% ในเดือนกันยายนปี 2018 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.8% ในเดือนก่อนหน้าและเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ลดลง 9.5% นับเป็นการร่วงครั้งที่สี่ในรอบเจ็ดเดือนและเป็นการลดลงต่อเดือนที่มากที่สุด

อุตสาหกรรมวิศวกรรมเครื่องกลของโลกถูกครอบครองโดยผู้เล่นหลักทั้งสี่นี้ ดังนั้น เมื่อคำนึงถึงพลวัตที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งและความไม่แน่นอนทางการค้าในตลาด เราคาดหวังว่า อุตสาหกรรมจะได้เห็นการเติบโตที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

หมายเหตุ:

Brexit มาจากคำว่า Britain+Exit คือความเสี่ยงที่สหราชอาณาจักร (UK) จะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (European Union), Brexit Deal คือ กระบวนการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปที่จะแยกตัวออกจากกัน

About The Author