Samurai

‘The Book of Five Rings’ กับวิถีของผู้ผลิตในยุคของการเปลี่ยนผ่าน

เรื่องเล่าจาก MExperience 2019 อุ่นเครื่องก่อนงาน Manufacturing Expo 2019

MEexperince

บนเวทีเสวนาในเรื่องหนักๆ หลายครั้งก็มีเรื่องราวสนุกๆ ชวนจดจำ โดยเฉพาะจากนักวิชาการที่มีวาทศิลป์ ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเรื่องราวของผู้ประกอบการที่ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงยากที่สุดมาเล่าสู่กันฟังในวงเสวนา “จับทิศทางการลงทุนพลิกโอกาสสมรภูมิการค้าโลก” ผ่านเรื่องราวของหนังสือ ‘คัมภีร์ 5 ห่วง’ หรือ The Book of Five Rings ที่ว่ากันว่าเป็นหนังสือที่ผู้บริหารทุกคนต้องอ่าน

“ในโลกที่มัน Dynamic มาก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและเป็นไปอย่างรวดเร็ว ในฐานะผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อม ผู้ประกอบการที่เปลี่ยนแปลงยากที่สุดในโลก แข็งแล้วก็ปรับตัวยากและกลัวความเสี่ยงที่สุดในโลก นั่นคือผู้ประกอบการญี่ปุ่น แต่หนังสือที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นอ่านกันมากที่สุดในช่วงที่ต้องการเปลี่ยนผ่านและปรับตัวก็คือ หนังสือคัมภีร์ 5 ห่วง หรือ The Book of Five Rings แต่งโดยมิยาโมโตะ มูซาชิ (Miyamoto Musashi) เป็นซามูไร เกิดเมื่อปีค.ศ. 1584 พออายุ 16 ก็เกิดสงครามครั้งใหญ่ เกิดจากการที่กองทัพ 2 ฝ่าย ที่ต้องการรวมชาติมารบกัน ฝ่ายนึงคือฮิเดโยชิ มีคน 120,000 คน อีกฝ่ายนึงคือโตกุกาวามีคนอยู่ 80,000 คน ในที่สุดฝ่ายที่มีมากกว่าแพ้และมูซาชิอยู่ในฝ่ายนั้นด้วย เมื่อแม่ทัพแพ้ ซามูไรที่ขึ้นกับแม่ทัพนั้นก็กลายเป็นโรนิน คือซามูไรที่ไร้เจ้านาย สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องไปท้าดวลกับซามูไรทุกคน เพื่อที่จะให้ขุนนางที่อยากได้ซามูไรไว้ในสังกัดเห็นว่าเค้าเก่งยังไง มูซาชิสู้ไป 60 กว่าครั้งก็ชนะทุกครั้งแต่ก็ยังไม่มีเจ้านายสักที ในที่สุดก็คิดว่าต้องรับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ ในที่สุดก่อนตายเค้าก็ขังตัวเองอยู่ในถ้ำแล้วก็แต่งหนังสือขึ้นมาเล่มนึง หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “คัมภีร์ 5 ห่วง”

samurai

ในบทนำของคัมภีร์ห้าห่วง มูซาชิได้เขียนถึงตนเองไว้ว่า

“ข้าพเจ้าตั้งแต่อายุ 13 ถึง 29 ได้ประลองกับยอดฝีมือไม่ต่ำกว่า 60 ครั้ง ข้าพเจ้าไม่เคยพ่ายแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้นเมื่ออายุเข้าวัย 30 จึงได้ย้อนกลับมามองวิธีการต่อสู้ทั้งหมดที่ผ่านมา จึงคิดได้ว่า สาเหตุที่ได้ชัยชนะเรื่อยมานั้น อาจไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าฝีมือเหนือกว่าคู่ประลองเสมอไปนัก แต่อาจเพราะข้าพเจ้ามีสติปัญญาไหวพริบที่จะช่วงชิงโอกาสที่ดีกว่า จึงได้ชัยชนะเสมอมา ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงหันมามุ่งศึกษากลยุทธ์และขัดเกลาตนเองในด้านนี้ เมื่อเข้าวัย 50 จึงได้บรรลุถึงแก่นแท้แห่งวิชาดาบในที่สุด”

“หนังสือเล่มนี้แต่งขึ้นมาเพื่อที่จะบอกว่าในยุคที่มีการเปลี่ยนผ่าน เกิดญี่ปุ่นสมัยใหม่แล้ว จะต้องอยู่อย่างไร เขาได้ใช้ธาตุทั้ง4 เป็นแกนหลักของคัมภีร์ 5 ห่วง ห่วงที่1 ก็คือ ดิน ถ้าคุณจะทำธุรกิจ ต้องเป็นดิน Core business ของคุณต้องแข็งแกร่ง พื้นฐานต้องมั่นคง ต้องเก่งที่สุดในเรื่องที่เป็นธุรกิจหลักของคุณ ไม่เป็นที่สองรองใคร คุณต้องพัฒนาตัวเองให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากนั้นจะไปยังคัมภีร์ที่ 2 คือน้ำ น้ำเปลี่ยนได้ทุกรูปทรง ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนให้ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าเป็นดินที่แข็งทื่อ แต่ต้องมีน้ำด้วย เพื่อที่จะสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เข้ากับสถานการณ์ได้ คัมภีร์ที่ 3 คือลม หมายถึงฝ่ายตรงข้าม คุณรู้ว่ามีอยู่ตลอดเวลาแต่มองไม่เห็นมัน ถ้าคุณเป็นผู้ผลิต คุณเก่งที่สุดเรื่อง Supply size รู้ดีที่สุดเรื่องเทคโนโลยี ต้นทุน Supply chain แต่สิ่งที่คุณไม่รู้เลยคือฝั่งตรงข้าม รู้ว่ามีอยู่ แต่ไม่รู้ Demand ของเค้าว่ามันคืออะไร

แต่ของมูซาชิเป็น Demand ที่มองไม่เห็น สิ่งที่เราต้องเจาะให้ได้ ไม่ใช่แค่ความต้องการ แต่เราต้องเจาะ inside ของเค้าให้ได้ คือความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า บางครั้งคุณไปถาม คุณไปทำ Marketing ไป Analyse  คุณจะได้แค่ความต้องการแต่คุณยังไม่ได้ Inside

ยกตัวอย่าง เช่น ฟอร์ดถามในตลาดว่าอยากได้อะไร ทุกคนบอกอยากได้ม้าที่วิ่งเร็วขึ้น กินน้อยลง บรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น ม้าที่ไม่ต้องเป็นโรค แต่สิ่งที่ฟอร์ดกลับมาสร้าง ฟอร์ดไม่ได้พัฒนาสหพันธ์ม้า แต่ฟอร์ดกลับมาสร้างรถยนต์ เพราะฉะนั้นฟอร์ดจึงไปทำ Mass Production และทำให้ถูกลง 10 เท่า หลังจากนั้นก็ไม่มีม้า มีแต่รถยนต์วิ่งบนถนน

คัมภีร์ที่ 4 ไฟ วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน และนำไปแข่งกับคู่ต่อสู้ คัมภีร์สุดท้าย คัมภีร์ที่ 5 คือ สุญญากาศ ความว่างเปล่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องรู้จักเลิกให้เป็น หยุดให้ได้ ทำให้ลีน ต้องหยุดให้ได้ หยุดคือตัวสำเร็จ

และนี่คือสิ่งที่คอมพิวเตอร์ไม่มี คุณให้ AI ทำ Machine Learning , Data Learning มันหมุนไป 100 ครั้ง แสนครั้ง มันมีความอดทน แต่ของบางอย่างต่อให้อดทนแค่ไหนมันไม่สำเร็จ AI หยุดไม่ได้ แต่มนุษย์ต้องหยุดให้ได้”

 MEexperince2

สุดท้ายนี้ toolmakers.co ขอเชิญชวนวิศวกรและนักอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าท่านอยู่ในใน Supply Chain อุตสาหกรรมยานยนต์ ร่วมชม Manufacturing Expo 2019 เพื่ออัพเดทเทคโนโลยีและเครื่องมือเครื่องจักรการผลิต 19-22 มิ.ย.นี้ ที่ไบเทค และขอแนะนำให้ลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกรวดเร็ว คลิก

About The Author