Stellantis Venture Awards 2023

Stellantis Venture Awards 2023 สำหรับ 11 สตาร์ทอัพที่ร่วมพัฒนาการเคลื่อนที่แบบยั่งยืน

การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินการมาเป็นเวลานาน นอกจากบริษัทจะทำการวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเองนั้นต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก อีกทั้งอาจต้องใช้วิธีเข้าซื้อหรือร่วมลงทุนในบริษัทขนาดเล็กที่มีนวัตกรรมนั้นอยู่แล้วมาต่อยอดสิ่งที่บริษัทกำลังทำอยู่ ตัวอย่างเช่น การซื้อกิจการ Youtube ของ Google การร่วมลงทุนใน OpenAI ของ Microsoft หรือยังมีอีกแนวทางหนึ่ง คือ การร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพในระยะแรกเริ่มเป็นการผนึกกำลังกันของเงินทุนและไอเดียใหม่ ๆ 

ในบทความนี้จะเล่าถึงบริษัท Stellantis ที่เป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์ยุโรปมากมายที่คนไทยรู้จักดีอย่าง Jeep, Peugeot, Alfa Romeo ฯลฯ ที่เลือกใช้แนวทางในการหานวัตกรรมด้านการเคลื่อนที่ใหม่ที่สะอาด ปลอดภัย ราคาไม่แพง ผ่านความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนแผน Dare Forward 2030 มุ่งสู่เป้าหมายการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2038 ของบริษัท บทความนี้จะเป็นการเล่าถึงนวัตกรรมด้านการเคลื่อนที่ล่าสุดจากยุโรป ในอีกทางหนึ่งจะสะท้อนถึงการที่ภาคเอกชนสร้างนวัตกรรมผ่านความร่วมมือกับสตาร์ทอัพ

แบรนด์รถยนต์ภายใต้บริษัท STELLENTIS (ที่มา: EMAKINA)

คลิปวิดีโอ งานแถลง Stellantis Dare Forward 2030 โดย Carlos Tavares ซีอีโอของ Stellantis

เมื่อไม่นานมานี้ Stellantis ได้มอบรางวัล Venture Award ให้แก่สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 11 แห่ง สำหรับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโซลูชันการเคลื่อนที่แบบยั่งยืน นับเป็นการมอบรางวัลประจำปีครั้งที่ 2

Stellantis recognised eleven top-performing technology start-ups.

รางวัลจาก Stellantis สำหรับ 11 สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่มีผลการดำเนินงานสูงสุด

(ที่มา: Stellantis)

Stellantis ได้มอบรางวัล Venture Award ประจำปี 2023 ให้แก่สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 11 แห่ง สำหรับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโซลูชันการเคลื่อนที่แบบยั่งยืนและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม รางวัลนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Dare Forward 2030 ของบริษัท ที่ไฮไลต์ความมุ่งมั่นของ Stellantis ในการพัฒนาการเคลื่อนที่ให้เป็นนวัตกรรมที่สะอาด ปลอดภัย และราคาไม่แพง ผ่านความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ สตาร์ทอัพที่ได้รับเลือกจะได้รับการยอมรับทางด้านประสบการณ์และนวัตกรรมเทคโนโลยีจากลูกค้า Ned Curic, Chief Engineering and Technology Officer ให้ข้อสังเกตถึงความสำคัญของการอ้าแขนรับมุมมองที่สดใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อันล้ำสมัยและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

Stellantis ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพโดยมีหน้าที่หลัก 2 หน้าที่ คือ ในฐานะหุ้นส่วนเพื่อนำโซลูชันใหม่ ๆ มาใช้อย่างรวดเร็ว และในฐานะนักลงทุนผ่านกองทุน Stellantis Venture Capital ซึ่งลงทุนให้กับบริษัทในระยะเริ่มต้นและต่อมาที่มีสร้างนวัตกรรมในภาคส่วนยานยนต์และการเคลื่อนที่ ในเวลา 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทำสัญญาความร่วมมือมากกว่า 110 ฉบับกับสตาร์ทอัพต่าง ๆ และลงทุนใน 12 รายการผ่านทางบริษัทร่วมทุนของบริษัท

สตาร์ทอัพทั้ง 11 แห่งได้รับการคัดเลือกจากสิ่งที่เห็นได้ชัดอย่างการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การแนะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ และศักยภาพในการขยายขนาดภายในการดำเนินงานของ Stellantis โดยรางวัล Stellantis Venture Awards ประจำปี 2023 เรียงตามหมวดหมู่หลักของแผนกลยุทธ์ Dare Forward 2030 ประกอบด้วย

Care – ความห่วงใยต่อโลก ลูกค้า และพนักงาน มีเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2038

  • Recicli (บราซิล) ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างยั่งยืนสำหรับทุกอุตสาหกรรม Stellantis และ Recicli ทำงานร่วมกันในการกู้คืนวัสดุหายากจากแบตเตอรี่ไฟฟ้า โดยใช้ประโยชน์จากกระบวนการโลหวิทยาชีวภาพที่เป็นนวัตกรรมที่ใช้จุลินทรีย์ 
  • NetZero (ฝรั่งเศส) เชี่ยวชาญในการกำจัดคาร์บอนที่มีความคงทนสูงจากชั้นบรรยากาศ โดยการเปลี่ยนสิ่งตกค้างทางการเกษตรไปเป็นถ่านชีวภาพ (Biochar) ซึ่งเป็นคาร์บอนที่มีความเสถียรมาก
  • Trails Offroad (สหรัฐอเมริกา) จุดประกายให้ลูกค้าสนุกไปกับความสามารถของรถ Jeep® ในการสำรวจเส้นทางออฟโรด ด้วยคู่มือนำทางออฟโรดที่มีในระบบ Uconnect
  • Vehya (สหรัฐอเมริกา) ทำให้ประสบการณ์การชาร์จไฟเป็นเรื่องง่ายด้วยการสนับสนุนลูกค้า Stellantis ในอเมริกาเหนือเพื่อเลือกและติดตั้ง Free2move อุปกรณ์ชาร์จไฟบ้านที่ใช่

Tech – อ้าแขนรับเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อให้การเคลื่อนที่เป็นนวัตกรรม สะอาด ปลอดภัย และราคาไม่แพง

  • Tiamat (ฝรั่งเศส) ได้ทำการพัฒนาเคมีเซลล์แบตเตอรี่โซเดียมอิออนขั้นสูง ซึ่งให้ต้นทุนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง (KWh) ที่ต่ำลงและเป็นทางเลือกของลิเธียม-อิออนที่ปราศจากลิเธียมและโคบอลต์เพื่อเพิ่มความยั่งยืนและความเป็นอิสระ (ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งวัตถุดิบหายากจากต่างประเทศ โดยเฉพาะลิเธียม) 
  • Electra Vehicles (อิตาลี/สหรัฐอเมริกา) นำเสนอโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ใช้ AI เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ระยะการทำงาน และความปลอดภัยทางเคมีที่มีอยู่และในยุคถัดไปเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
  • Vayyar (อิสราเอล) ใช้แพลตฟอร์มเรดาร์ภาพ 4 มิติขั้นสูงที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวและติดตามเป้าหมายได้หลายรายการเพื่อตรวจสอบภายในห้องโดยสารและเพิ่มความปลอดภัย สามารถแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย ระบบป้องกันการบุกรุก และการตรวจจับเด็กที่อยู่ในรถ ด้วยเซนเซอร์เดียว
  • Geoflex (ฝรั่งเศส) สามารถระบุตำแหน่งทั่วโลกแบบเรียลไทม์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำลงไปถึง 4 เซนติเมตร เป็นการยกระดับเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองขั้นสูง
  • 6K (สหรัฐอเมริกา) กระบวนการพลาสมา Unimelt ทำการผลิตอย่างยั่งยืนขั้นสูง มั่นใจได้ว่าการผลิตวัสดุมีความสะอาด มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ

Value – เพิ่มการสร้างมูลค่าและปลดปล่อยพลังของ Stellantis ผ่าน 3 ตัวขับเคลื่อนหลัก คือ การทำกระบวนการทำงานให้เป็นดิจิทัล จิตวิญญาณผู้ประกอบการ และการหยั่งรากในทุกภูมิภาค

  • Shippeo (ฝรั่งเศส) และ Freight Verify (สหรัฐอเมริกา) ช่วยให้ลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายสามารถติดตามตำแหน่งการขนส่งยานพาหนะของพวกเขาได้แบบเรียลไทม์
  • นอกจากนี้ Stellantis ยังแสดงความยินดีกับผู้เข้ารอบสุดท้ายอีก 22 แห่ง ได้แก่ Bee Planet, Qinomic, Deepki, Meili Tech, Pontosense, Easyrain, Objeos, Woodoo, Storedot, Batemo, Flag-MS, Ideal Power, Marel Power, Auto-U, Crave Industry, Upply, Tractable, Knobs, Sheeva.ai, Mavi.io, Emergency Safety Solution, และ Ucorp.

About The Author