‘ระบบส่งถ่ายกำลังด้วยสายพาน’ สำคัญต่อกำลังการผลิตอย่างไร

ในฐานะฝ่ายจัดซื้อคุณเข้าใจคำว่า ‘รัดเข็มขัด’ ดีแค่ไหน เพราะเหตุผลสำคัญที่ทำให้โรงงานหลายแห่งเลือกใช้สินค้าเพียงเพราะมีราคาที่ถูกกว่า โดยอาจไม่ทันได้คิดถึงเรื่อง ‘Indirect cost’ ที่ตามมาหลังจากนั้น ว่านั่นต่างหากคือ ‘ราคา’ ที่แท้จริงของสินค้า

 

ผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมมีหลายเกรดให้เลือก เหตุผลในการเลือกใช้สินค้าที่มีราคาคู่ควรกับประสิทธิภาพจึงทำให้เกิด high productivity ไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ การเลือกสินค้าอุตสาหกรรมในส่วนที่สำคัญมากๆ ส่วนหนึ่งของการผลิตสินค้าในโรงงาน ก็คือ “ระบบส่งกำลังด้วยสายพาน” ไปดูกันว่า ชิ้นส่วนส่งถ่ายกำลังที่คู่ควรกับกำลังการผลิตของคุณควรมีคุณสมบัติอย่างไร ด้วยเหตุผลอะไร ปัญหาที่พบเจอส่วนใหญ่เกี่ยวกับระบบนี้มีอะไรบ้าง และโรงงานควรมีโซลูชันใดมารองรับ

ระบบส่งกำลังด้วยสายพานทำงานกับเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอย่างไร

ระบบส่งกำลังด้วยสายพาน ทำหน้าที่ส่งถ่ายกำลัง (แรงหมุน) จากมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ ไปสู่เครื่องจักร สายพานที่ดีควรจะส่งกำลังจากมอเตอร์ไปสู่เครื่องจักรได้มากกว่า 95% ของกำลังมอเตอร์ ยกตัวอย่าง ระบบที่พบทั่วไป ประสิทธิภาพการส่งกำลังอยู่ที่ประมาณ 60-80% ซึ่งทำให้ output ของเครื่องจักรไม่เต็มประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ทำได้

ปัญหาที่โรงงานส่วนใหญ่ต้องพบเจอ

  • เครื่องจักรทำงานไม่เต็มที่
  • กำลังการผลิตตก
  • การใช้พลังงานสิ้นเปลือง
  • รอบการเปลี่ยน (สายพาน) ไวมาก หลายแห่งเปลี่ยนทุก 2-3 เดือน หรือปีละ 3 ถึง 5 ครั้ง!

โซลูชันหลักที่โรงงานควรมี

  1. ยืดอายุการใช้งานของสายพาน
  2. ลดค่าใช้จ่ายให้การซ่อมบำรุง
  3. เพิ่มความสเถียรและความทนทานของสานพานเพื่อป้องกัน Break Down ของเครื่องจักร
  4. เพิ่มความรู้ในการติดตั้งและซ่อมบำรุง

Optibelt_ระบบส่งถ่ายกำลังด้วยสายพาน


สายพานมีกี่ประเภท

1. V-Belt หรือ สายพานวี

ส่วนใหญ่ใช้กับเครื่องจักรกลตามโรงงานต่าง ๆ สามารถส่งกำลังได้ในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ดี สานพานจะดึงพูลเลย์ตัวตามให้หมุนตามด้วยแรงเสียดทานระหว่างสายพานและพูลเลย์ เมื่อสายพานถูกตั้งให้ตึง (ในร่องของพูลเลย์) สามารถแบ่งได้อีกคือ สายพานวีปกติ, สายพานร่องวีร่วม, สายพานวีแหลม, สายพานวีหน้ากว้าง, สายพานวีหลายรูปพรรณ

2. Timing Belt หรือ สายพานไทม์มิ่ง

ตัวสายพานจะมีฟันเฟืองตลอดความยาวของสายพาน ฟันของสายพานทำด้วยยางเทียม เป็นสายพานที่มีแกนรับแรงด้วยลวดเหล็กกล้า หรือทำด้วยลวดไฟเบอร์ฝังอยู่ในยางเทียม มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลียมคางหมู ซึ่งจะหุ้มด้วยเส้นใยไนลอนเพื่อลดการสึกหรอ สายพานชนิดนี้สามารถงอตัวได้ดี ใช้กับพูลเลย์ล้อเล็กๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 มิลลิเมตรได้ เนื่องจากร่องสายพานจะมีขนาดเดียวกับบนร่องพูลเลย์ ทำให้เกิดการขบกันเหมือนฟันเฟือง จึงไม่เกิดการลื่นไถลขณะส่งกำลัง สามารถใช้เป็นตัวส่งกำลังงานในเครื่องยนต์ โดยเป็นตัวขับเฟืองเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาราวลิ้น และจะไม่เสียงดังขณะทำงาน

3. Flat Belts หรือ สายพานแบน

เป็นสายพานชนิดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ใช้ในการส่งถ่ายกำลังจากพูลเลย์ของเพลาขับไปยังพูลเลย์ของเพลาตาม มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทย่อยๆ คือ:

  • Light Drives – สายพานที่ใช้กับงานเบา
  • Medium Drives – สายพานที่ใช้กับงานหนักปานกลาง
  • Heavy Drives – สายพานที่ใช้กับงานหนัก

4. Round Belt หรือ สายพานกลม

สายพานประเภทนี้ทำจากพลาสติกโพลียูริเทน จะต้านทานจาระบี น้ำมันเบนซิน น้ำมัน และน้ำ สายพานกลมสามารถปรับตั้งทิศทางการหมุนได้หลายทิศทางตามความต้องการ มีหน้าตัดเป็นรูปวงกลม การส่งกำลังด้วยสายพานกลมจะให้ความยืดหยุ่นสูงมาก ขณะการทำงานของสายพานจะไม่เกิดเสียงดัง


Optibelt ระบบส่งถ่ายกำลังด้วยสายพาน

กำลังการผลิตตกต่ำเกี่ยวข้องกับสายพานอย่างไร

เหตุผลข้อหนึ่งที่ทำให้กำลังผลิตตกต่ำก็เพราะสายพานยืด หรือการออกแบบระบบส่งกำลังไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมกับประเภทและขนาดเครื่องจักร หรือไม่ก็เครื่องจักรถูกโมดิฟายให้ทำงานได้มากขึ้น แต่สายพานยังใช้แบบเดิม สเปคเดิม ทำให้ไม่สามารถส่งกำลังได้อย่างเต็มที่ ปัญหาที่ตามมาคือรอบการเปลี่ยนที่ไวมาก หรือoutput ที่ได้ออกมาน้อยเช่นที่กล่าวมาข้างต้น 

แล้วสายพานแบบไม่ยืดมีความคุ้มค่ากว่าสายพานปกติอย่างไร

  1. Efficiency สูงกว่า ทำให้ได้ประสิทธิภาพการผลิตที่ดีกว่า
  2. อายุการใช้งานสายพานยาวนานกว่า
  3. ช่วยยืดอายุการใช้งานของส่วนอื่นๆ ในเครื่องจักร เช่น อายุการใช้ ลูกปืน เพราะ สายพานที่ไม่ยืด จะมี vibration ที่ต่ำกว่า
  4. ประหยัดพลังงานมากกว่า เพราะ สามารถลด load ลดการสูญเสียกำลังในระบบ และ การใช้กระแสไฟคงที่กว่า

ดังนั้นสายพานที่มีคุณภาพจึงควรมีอายุใช้งานอย่างน้อย 1 ปี เพื่อลดปัญหาเรื่องรอบการเปลี่ยน ปัญหาจุกจิกกวนใจที่จะทำให้กำลังการผลิตของคุณลดลง ที่สำคัญเมื่ออายุการใช้งานนานขึ้น คุณก็จะสามารถประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ลงได้ และนั่นคือราคาที่แท้จริงของสินค้าคุณภาพที่มาพร้อมกับความทนทานและประสิทธิภาพที่คุณจะได้รับ


ต้องการรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องกำลังการผลิตตกต่ำ หรือ การประหยัดพลังงานภายในโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับระบบชิ้นส่วนส่งกำลัง สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านระบบส่งถ่ายกำลังด้วยสายพานคุณภาพจากเยอรมนี Optibelt Power Transmission (Thailand) ได้วันนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่าของโรงงานคุณ

ติดต่อ:

Optibelt Power Transmission (Thailand) Co., Ltd.

Phone038 134 409

Website: https://www.optibelt.com/en/power-transmission/home/

About The Author