Sigma Labs ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้ลงนามร่วมมือกับบริษัท AMFG ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบดำเนินการผลิต (MES) สำหรับการผลิตแบบเพิ่มเนื้อวัสดุ (AM) ทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันคือ การขยายขอบเขตของโซลูชัน และจัดหาโซลูชัน AM ที่สามารถปรับให้เหมาะสมสำหรับความต้องการของตลาด
จากการร่วมมือของ Sigma Labs และ AMFG มีความต้องการที่จะเพิ่มคุณภาพและศักยภาพของโซลูชันการผลิตแบบเพิ่มเนื้อวัสดุ ในขณะที่ยังสามารถลดต้นทุนการผลิตแบบต่อเนื่องได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการรวม MES และระบบตรวจสอบในแหล่งกำเนิด (In situ monitoring system) เข้าด้วยกัน จะช่วยให้ผู้ใช้งาน AMFG และ Sigma Labs และบริษัท OEM ได้รับผลประโยชน์ดังต่อไปนี้:
- เวิร์กโฟลว์การผลิตทั้งหมดเป็นแบบอัตโนมัติ รวมถึงการมองเห็นที่สำคัญในการตรวจสอบการผลิต ด้วยการตรวจสอบย้อนกลับอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่แบบผงไปจนถึงชิ้นส่วน
- กระบวนการผลิตและชิ้นส่วนแบบอัตโนมัติที่พัฒนาขึ้นจากเดิม
- การดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ พร้อมการเจาะลึกในฟีดการวิเคราะห์
- การเก็บข้อมูลเพื่อรองรับการจำลอง การคาดการณ์คุณสมบัติของวัสดุ รวมทั้ง final pedigree และการตรวจสอบการรับประกันคุณภาพที่สำคัญ เพื่อลดความต้องการหลังการตรวจสอบ
- การเชื่อมต่อข้อมูลและความสมบูรณ์ตลอดกระบวนการผลิตที่ไม่ต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของอุปกรณ์
Sven Hinrichs หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านเทคนิคระดับโลกของ AMFG กล่าวว่า “ในขณะที่มีโซลูชันที่แก้ปัญหาเฉพาะจุด ทุกภาคส่วนจะได้รับประโยชน์เมื่อข้อมูลระหว่างระบบมีการไหลอย่างอิสระและถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทั้งหมด ทาง AMFG ของชื่นชมความก้าวหน้าของ Sigma Labs เป็นอยากมากที่สามารถการสร้างความมั่นใจในคุณภาพและคุณสมบัติของชิ้นส่วน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกันในการสร้างโซลูชันแบบ end-to-end ที่ปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่าย”
- MATERIALIZE และ SIGMA LABS ร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำสำหรับ AM โลหะ
- ลดรอบเวลา MOULD TOOLS ด้วยการพิมพ์ 3 มิติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- TECH FOCUS: METAL AM ในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์วันนี้ไปได้แค่ไหน
- TECH FOCUS | จับตานวัตกรรมพลิกโลก AM โลหะ 9 บริษัทสตาร์ทอัพ
ขณะเดียวกัน Jacob Brunsberg ประธานของ Sigma Labs ให้ความเห็นว่าบริษัทเลือก AMFG เข้ามาเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เนื่องจากชื่อเสียงในด้านการดำเนินการผลิตของ AMFG ที่ดีตลอดเรื่อยมา ทั้งหมดนี้ทำให้เราได้เห็นความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัทให้การพัฒนาเวิร์กโฟลว์สำหรับการผลิตแบบเพิ่มเนื้อวัสดุนั้นเอง
อ้างอิง: https://www.etmm-online.com/collaboration-aims-to-optimise-and-standardise-additive-manufacturing-workflow-a-1107340/
บทความที่เกี่ยวข้อง:
About The Author
You may also like
-
‘Vapor Smoothing’ เทคนิคการทำหลังกระบวนการที่ทำให้ TPU กันน้ำและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ
-
Trumpf ร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านอวกาศ เพื่อภารกิจอวกาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
Quickparts แนะนำทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการรอสินค้า สำหรับการพิมพ์ 3 มิติ
-
Stratasys เพิ่ม 6 วัสดุการพิมพ์ 3 มิติใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
-
Stratasys และ Encee GmbH ร่วมกันขยายโซลูชันการพิมพ์ 3 มิติสู่ภาคส่วนการแพทย์