SuperSource: AXELIA เครื่องหยอดของเหลวอัตโนมัติพร้อมกล้องอัจฉริยะจาก San-Ei Tech
SuperSource พาทุกคนไปชมหุ่นยนต์หยอดของเหลว 3 แกน AXELIA ที่มาพร้อมความแม่นยำและคุณภาพการทำงานในระดับสูงด้วยโซลูชันกล้องอัจฉริยะที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์จริง
SuperSource พาทุกคนไปชมหุ่นยนต์หยอดของเหลว 3 แกน AXELIA ที่มาพร้อมความแม่นยำและคุณภาพการทำงานในระดับสูงด้วยโซลูชันกล้องอัจฉริยะที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์จริง
ในปัจจุบันปัจจัยการผลิตทุกอย่างมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนพลังงานก็เพิ่มขึ้นจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่าง รัสเซียและยูเครน อิสราเอลและฮามาส ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานทักษะ สำหรับประเทศไทย นอกจากภาวะเงินเฟ้อ ค่าแรงที่จะปรับขึ้น ในขณะที่นโยบายดิจิทัลวอลเลตก็น่ากังวลว่าจะผลักให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นไปอีก สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจการผลิตจำเป็นต้องหาทางลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อให้ยังแข่งขันในตลาดได้
หุ่นยนต์ที่ทำงานแทนมนุษย์ (ที่มา: Siamsmartsolutions.com) ตัวชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI (Key Performance Indicator) ที่ใช้กันเป็นประจำในการปรับปรุงกระบวนการผลิต คือ ต้นทุนต่อหน่วยที่ถูกลง รอบเวลาที่เร็วขึ้น ซึ่งสามารถลดต้นทุนและเวลาในกระบวนการทำงาน ทุกสิ่งต้องสามารถวัดค่าเป็นตัวเลขได้
ระบบอัตโนมัติช่วยในการประหยัดทรัพยากรบุคคลได้มากขึ้น จากการที่ต้นทุนค่าแรงถีบตัวสูงขึ้น ตลอดจนปัจจัยการผลิตและต้นทุนพลังงานที่เฟ้อ รวมถึงการผลิตแบบยั่งยืนอย่างเครื่องจักรที่ต้องประหยัดพลังงาน ปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ภาษีคาร์บอนข้ามแดน สิ่งเหล่านี้เป็นภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ หากธุรกิจขนาดเล็กอย่างโรงงานที่มีคนไม่เกิน 10 คน ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบคงยังไม่ใช่คำตอบ บางทีแค่การเปลี่ยนเครื่องจักรรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น คุณภาพดีขึ้น ก็สามารถช่วยยกระดับการผลิตขึ้นได้ เพราะแต่ละบริษัทมีวิวัฒนาการที่แตกต่างกัน
ในปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตต่าง ๆ มีความท้าทายที่หลากหลาย ต้นทุนปัจจัยการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากเงินเฟ้อ ค่าพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าแรงที่จ่อขึ้น และยังมีเรื่องภาษีคาร์บอนข้ามแดน หากจะส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปผู้ผลิตต้องสามารถประกาศได้ว่าปล่อยคาร์บอนเท่าไร ตลอดจนการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ ทำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ต้องหาหนทางในการผลิตที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนขึ้น ใช้ทรัพยากร พลังงาน
ค่าแรงในประเทศไทยมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 450 บาทอีกในไม่ช้า แนวทางในการปรับตัวของธุรกิจมีเพียง 2 ทาง คือ ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ค่าแรงถูกกว่า และการไปสู่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าบางธุรกิจเลือกอย่างหลังหากต้องการจะรักษาการผลิตไว้ในประเทศของตนเอง ข้อดี คือ ความปลอดภัยของซัพพลายเชนที่อาจได้รับผลกระทบในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีการห้ามส่งออกในภาวะขาดแคลนของประเทศที่ไปทำการผลิต อีกประโยชน์หนึ่งของการผลิตภายในประเทศ คือ
ในการผลิตชิ้นส่วนหล่อหรือทุบขึ้นรูปที่มีคุณภาพสูง จำเป็นต้องมีการตรวจสอบในกระบวนการอยู่เสมอเพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพ ในปัจจุบันเทคโนโลยีการตรวจวัดได้ก้าวหน้าไปไกลอย่างสแกนเนอร์ 3 มิติแบบไม่ต้องสัมผัส สามารถทำงานได้แบบเรียลไทม์ เพียงสแกนลงบนวัตถุ 3 มิติและไล่ไปเรื่อย ๆ ภาพที่ได้จากการสแกนจะค่อย ๆ ปรากฎขึ้นเป็นแบบจำลอง 3 มิติในหน้าจอคอมพิวเตอร์
เป็นที่ทราบกันดีว่าระบบอัตโนมัติให้ประสิทธิภาพการผลิตที่สูงกว่า คุณภาพที่ดีกว่า มีความสม่ำเสมอมากกว่าการใช้แรงงานคน นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ และยังมีมิติของการรักษาความสามารถในการแข่งขัน หากคู่แข่งเริ่มทยอยใช้ระบบอัตโนมัติซึ่งให้คุณภาพที่สูงกว่า แล้วโรงงานผลิตไม่ปรับตัวตาม ย่อมไม่สามารถแข่งขันได้ ด้วยต้นทุนและระดับคุณภาพที่จำเป็นต้องแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามแม้จะทราบถึงประโยชน์ แต่การจะลองเปลี่ยนแปลงไปเป็นระบบอัตโนมัตินั้นควรมีขั้นตอนและต้องคำนึงสิ่งใดบ้าง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการซื้อเครื่องจักรพร้อมระบบมาแล้วจบ แต่ควรเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบเวิร์คโฟลว์ที่มี การทำแผนลงมือปฏิบัติที่มีความแข็งแกร่ง มีหลักไมล์ว่าสิ่งต่าง
เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยในเรื่องของปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ให้คนที่มีอยู่จำกัดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ช่วยให้งานซ้ำ ๆ เป็นระบบอัตโนมัติและให้ AI (Artificial Inteilligence) และ ML (Machine Learning) เป็นผู้ทำงาน
การตกแต่งพื้นผิวเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตชิ้นงาน ซึ่งแต่เดิมใช้แรงงานจำนวนมากและตกแต่งด้วยมือ ในปัจจุบันลูกค้าต้องการพื้นผิวตกแต่งที่มีความแม่นยำเพิ่มขึ้น