DMG Mori

DMG Mori เปิดตัว ‘INH 63’ แมชชีนนิงเซ็นเตอร์ 5 แกน รองรับงานตัดเฉือนที่ซับซ้อน

ด้วยปัญหาค่าแรงที่กำลังถีบตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องหันมาใช้ระบบอัตโนมัติ ลดการใช้คนหรืออาจไม่ใช้เลย เพื่อประหยัดต้นทุนแรงงานและยังได้คุณภาพที่สูงสม่ำเสมอ ผู้ผลิตเครื่องจักรจึงออกแบบรุ่นใหม่ ๆ ให้สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับระบบอัตโนมัติอย่าง ระบบสายพานอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ป้อนชิ้นงานได้ 

DMG Mori เปิดตัว INH 63 แมชชีนนิงเซ็นเตอร์ 5 แกนรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการตัดเฉือนชิ้นงานที่ซับซ้อน รองรับน้ำหนักได้มากถึง 1 ตัน ให้กำลังการผลิตในการตัดมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน

เครื่องแมชชีนนิงเซ็นเตอร์แนวนอน DMG Mori INH 63 ที่ผสานกับระบบพาเลทหมุนเวียน (Linear Pallet Pool) เพื่อการทำงานแบบอัตโนมัติที่ไม่ต้องมีคนดูแล

(ที่มา: DMG Mori)

DMG Mori แนะนำ ‘INH 63’ แมชชีนนิงเซ็นเตอร์รุ่นใหม่แบบ 5 แกน พร้อมแกนหมุนแนวนอน เพิ่มความสามารถในการผลิตสูงสุดและตัดเฉือนชิ้นงานซับซ้อนที่มีน้ำหนักได้มากถึง 1 ตัน มีความแข็งแรงและทนทาน 

  • ปริมาตรการทำงานที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 1,070 มม. ความสูง 1,000 มม. รองรับขนาดพาเลทสูงสุดที่ 630 x 630 มม.
  • ขนาดกะทัดรัด สามารถรวมเข้ากับระบบการผลิตอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย
  • แม่พิมพ์ (Dies และ Moulds) กล่องแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และตัววาล์วสำหรับการบินอวกาศ เป็นส่วนประกอบที่สามารถใช้เครื่องจักรนี้ผลิตได้

ความแม่นยำ (Precision)

  • การออกแบบเครื่องจักรที่มีความเสถียร มีการปรับโครงสร้างให้เหมาะสมที่สุดด้วยระเบียบวิธีไฟไนต์อีลิเมนต์ (FEM – Finite Element Method)  
  • ทุกแกนตั้งฉากมีบอลสกรูคู่ ช่วยให้การตัดเฉือนมีไดนามิกที่แม่นยำ การวางตำแหน่งมีความแม่นยำสูงด้วยตัวเข้ารหัสเชิงเส้น (Linear Encoders) จาก Magnescale 
  • การหล่อเย็นที่เชื่อถือได้ของบอลสกรูและแหล่งความร้อนอื่น ๆ จะช่วยยับยั้งการเคลื่อนตัวของความร้อนและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเครื่องจักรที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อน

ผลิตภาพ (Productivity)

  • INH 63 ให้กำลังการผลิตในการตัด (Cutting Capacity) เพิ่มขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 
  • สำหรับการตัดเฉือนแบบ 5 แกน โต๊ะหมุนได้ตั้งแต่ +45 ถึง -195 องศา 
  • มอเตอร์ขับเคลื่อนตรง (Direct Drive) ความเร็วที่ 90 และ 30 รอบต่อนาที (rpm) 
  • แกนหมุน Power Master ให้ความเร็วที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิด 808 นิวตันเมตร พลังงาน 85 กิโลวัตต์เป็นมาตรฐาน โดยมีตัวเลือกสำหรับความเร็วสูงและแรงบิดสูง 

* DMG Mori รับประกัน 36 เดือน โดยไม่จำกัดเวลาทำงาน *

ความยืดหยุ่น (Flexibility)

วงล้อของ INH 63 มีช่องสำหรับใส่เครื่องมือ 63 ช่องเป็นมาตรฐาน โดยสามารถขยายออกเป็น 6 วงล้อ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเครื่องมือได้ถึง 363 ชิ้น สามารถรองรับขนาดใหญ่ที่สุดโดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 320 มม. ความยาว 700 มม. น้ำหนัก 35 กก. (มีตัวเลือกถึง 50 กก.) ด้วยความจุที่สูงรวมกับโซลูชันการจัดเก็บพาเลทขนาดใหญ่ทำให้ทำงานอัตโนมัติได้ยาวนาน

INH 63 มีความยืดหยุ่นในการผลิตแบบอัตโนมัติร่วมกับระบบสายพานอัตโนมัติ (Linear Pallet Pool) หรือระบบการจัดเก็บแบบวงกลม (Circular Storage System) ตามจำนวนตำแหน่งพาเลทที่ต้องการและพื้นที่การผลิตที่มี

คลิปวิดีโอ แมชชีนนิงเซ็นเตอร์ INH 63 ที่ใช้ร่วมกับระบบลำเลียงพาเลท LPP และระบบหุ่นยนต์ MATRIS

แมชชีนนิงเซ็นเตอร์ INH 63 มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น ถังหล่อเย็นแนวตั้ง Zero-Sludge Coolant Pro ที่ช่วยยืดอายุสารหล่อเย็น โดยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 7.5 ตันต่อปี

คลิปวิดีโอ Zero-Sludge COOLANT Pro ถังหล่อเย็นความจุสูง แนวตั้ง – ประหยัดพลังงานและพื้นที่

หัวฉีดหล่อเย็นในพื้นที่ทำงานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.8 มม. จะไม่มีการอุดตัน และยิ่งมีตัวเลือก AI ที่กำจัดเศษวัสดุโดยคำนึงถึงปริมาณเศษที่เกิดขึ้น จึงช่วยลดพลังงานในการฉีดสารหล่อเย็นได้มากถึง 57 เปอร์เซ็นต์ 

เครื่องดักจับหมอกน้ำหล่อเย็นในอากาศ (Zero FOG Airborne Coolant Mist Collector) ไม่เพียงแต่รักษาโรงงานให้สะอาด ยังช่วยลดพลังงานการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

คลิปวิดีโอ ‘ZeroFOG’ เครื่องดักจับหมอกน้ำหล่อเย็นในอากาศ

คลิปวิดีโอ การทำงานของ แมชชีนนิง 5 แกนแนวราบ รุ่น INH 63 และ INH 80 

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/

บทความที่น่าสนใจ

About The Author