ความท้าทายต่าง ๆ สำหรับผู้ผลิตมีอยู่มากมายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อ ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ค่าแรงที่กำลังจะเพิ่มขึ้น ตลอดจนเรื่องของภาษีคาร์บอนข้ามแดน (Carbon Border Tax) ของสหภาพยุโรป ทำให้เครื่องจักรและเทคโนโลยีในการผลิตที่ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านั้นเป็นที่ต้องการมากขึ้น
ในงาน EMO Hannover ปีนี้ DMG Mori จะนำเสนอ 4 เทคโนโลยีหลักเพื่อยกระดับการตัดเฉือน ซึ่งทาง DMG Mori เรียกว่า MX หรือ Machine Transformation ดังนี้
- การผสานรวมกระบวนการ (Process Integration)
- ระบบอัตโนมัติ (Automation)
- การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation)
- การเปลี่ยนแปลงสีเขียว (Green Transformation)
การเปลี่ยนผ่านโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Green Transformation) – DMG Mori ประกาศความสำเร็จในการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทตั้งแต่ต้นปี 2021
(ที่มา: DMG Mori)
สามารถรับชมคลิปวิดีโอ EMO 2023 | DMG MORI City – บ้านของเทคโนโลยี ได้ตามลิงก์ด้านล่าง
แนวคิดการผลิตแบบองค์รวม (Holistic Production Concept)
DMG Mori จะนำเสนอแนวคิดการผลิตแบบองค์รวม (Holistic Production Concept) สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีเครื่องมือเครื่องจักรอันทันสมัย ตั้งแต่เครื่องกลึง CNC อเนกประสงค์ ไปจนถึงเครื่องกัด 5 แกน ศูนย์กัดและกลึง ตลอดจนแพลตฟอร์มการผลิตแบบเติมวัสดุ ภายในงานจะมีการจัดแสดงเครื่องจักร 39 เครื่อง และโซลูชันระบบอัตโนมัติ 20 รายการ รวมถึงการเปิดตัวระดับโลกของเครื่องจักรรุ่นใหม่ในการกัดและกลึงอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น CTX Beta 450 TC, เครื่องกลึงอเนกประสงค์รุ่น CTX 450 และ CTX 550, แมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกน พร้อมแกนหมุนแนวนอนรุ่น INH 63, ระบบจัดการพาเลทแบบโมดูลาร์รุ่น PH Cell 800 และหุ่นยนต์อัตโนมัติสำหรับการจัดการเครื่องมือและวัสดุรุ่น UH-AMR 2000 เป็นต้น โดยเครื่องจักรรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวครั้งแรกในงาน EMO 2023
คลิปวิดีโอด้านล่างเป็นตัวอย่างการทำงานของเครื่องจักรบางส่วนในรุ่นที่มีความใกล้เคียงกัน
เครื่องกลึง CNC – DMG MORI CTX 450 Ecoline
PH Cell – ระบบจัดการพาเลทแบบโมดูล่าร์ (แยกส่วน)
DMG Mori – การกัด กลึง เจียระไน และกัดเกียร์ ในเครื่องเดียว
4 เทคโนโลยีหลักเพื่อการยกระดับการตัดเฉือน
- การผสานรวมกระบวนการ (Process Integration) เป็นสิ่งที่ DMG Mori พยายามขับเคลื่อนมาตลอดเวลาหลายทศวรรษเพื่อยกระดับการตัดเฉือน ในปัจจุบันการกัดและกลึงพร้อมกัน 5 แกนในพื้นที่ทำงานเดียวกันเป็นสิ่งที่แพร่หลายสำหรับปรับการตัดเฉือนชิ้นงานที่ซับซ้อนให้มีความเหมาะสมที่สุด DMG Mori ได้ผสานรวมเทคโนโลยีการตัดเฉือนอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาไว้ในเครื่องเดียว เช่น การเจียร การกัดเกียร์ การตัดเฉือนแบบอัลตร้าโซนิค และการผลิตแบบเติมวัสดุกระบวนการ DED (Direct Energy Deposition หรือ การให้พลังงานวัสดุโดยตรงเพื่อหลอมวัสดุให้เกาะตัวเป็นชิ้นงาน) ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจน คือ รอบเวลาสั้นลง อัตราการใช้เครื่องจักรสูงขึ้น และส่วนประกอบมีคุณภาพดีขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมีการถอดและหนีบชิ้นงานใหม่หลายครั้ง ตลอดจนไม่เสียเวลาในการโอนถ่ายชิ้นงานระหว่างเครื่อง
- โซลูชันระบบอัตโนมัติที่มีความยืดหยุ่น (Flexible Automation) การเพิ่มผลิตภาพจากการใช้เครื่องจักรใหเ้กิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงกะการทำงานที่ไม่มีคนเฝ้าดูเครื่องจักร ปล่อยให้เครื่องจักรทำงานอัตโนมัติข้ามคืน แต่ก็ต้องมั่นใจได้ว่าส่วนประกอบต้องมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ
- การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) ไม่ว่าจะเป็น AI, IoT, Big Data และ Digital Twin มีส่วนช่วยอย่างมากในการปรับกระบวนการผลิตให้มีความเหมาะสม โดย DMG Mori ให้ลูกค้ามีโอกาสในการสร้างเครือข่ายและตรวจสอบการผลิตได้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ได้ ประโยคหนึ่งในด้านการจัดการที่ว่า “อะไรที่สามารถวัดได้ ย่อมจัดการได้” การที่ผู้ผลิตสามารถเห็นข้อมูลทุกส่วนในโรงงานทางดิจิทัล ช่วยให้สามารถปรับการใช้งานให้มีความเหมาะสมที่สุด เพิ่มประสิทธิภาพได้ ผ่านข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการตรวจสอบระบบการผลิต
- การเปลี่ยนเปลงสีเขียว (Green Transformation) เป็นหนทางในการบรรลุเป้าหมายการปกป้องสภาพอากาศและชดเชยราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น DMG Mori Green Economy เป็นการประหยัดทรัพยากรในการผลิตเครื่องจักร การทำงานของเครื่องจักรที่ต้องประหยัดพลังงาน และปล่อยคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการใช้เครื่องจักรที่ยั่งยืนของ DMG Mori ตลอดจนความร่วมมือเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสีเขียว
แผนผังการสร้างความยั่งยืนจาก DMG Mori และซัพพลายเออร์ และจากลูกค้าที่ใช้เครื่องจักรของ DMG Mori
(ที่มา: DMG Mori)
Green Mode ช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้งานเครื่องจักรใช้พลังงานและปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมประหยัดต้นทุนพลังงานได้มากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ DMG Mori จะสาธิตมาตรการเหล่านี้ พร้อมกับเครื่องมือเครื่องจักรต่าง ๆ รวมถึงกังหันสำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำและแผ่นนำกระแสไฟฟ้า 2 ขั้ว สำหรับระบบกักเก็บพลังงานในงาน EMO 2023 ด้วย
บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com
บทความที่น่าสนใจ
- Okuma เปิดตัวระบบ CNC ควบคุมเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูง ในงาน EMO 2023
- Trinseo เปิดตัวเรซิ่นรีไซเคิลและเรซิ่นสารชีวภาพเพื่อความยั่งยืน
- Cadenas เปิดตัว CRM Connector โซลูชันการสื่อสารและรวบรวมข้อมูลลูกค้าจาก 3Dfindit
- เปิดตัวเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตแบบเติมวัสดุในงาน Rapid + TCT 2023
About The Author
You may also like
-
DMG Mori เปิดตัว ‘INH 63’ แมชชีนนิงเซ็นเตอร์ 5 แกน รองรับงานตัดเฉือนที่ซับซ้อน
-
ชุบชีวิต Norton แบรนด์มอเตอร์ไซค์อังกฤษ ด้วยการผสานเทคโนโลยีแบบเก่าและใหม่
-
Gindumac เปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายเครื่องจักรมือสอง ยืดวงจรชีวิตเครื่องจักรเพื่อความยั่งยืน
-
หัวจับเครื่องมือแบบโมดูลาร์แตกต่างจากหัวจับแบบทั่วไปอย่างไร?
-
Okuma เปิดตัวระบบ CNC ควบคุมเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูง ในงาน EMO 2023