TOYOTA

TOYOTA ลูกค้ารายแรกของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ Stratasys F3300 เพื่อรองรับการผลิตได้เร็วขึ้น

การพิมพ์ 3 มิติได้รับการยอมรับในการผลิตจริงมากขึ้นในปัจจุบัน โดยให้ประโยชน์ในด้านของการผลิตแบบไม่มีขั้นต่ำ และไม่มีเศษเหลือทิ้งมากเหมือนการผลิตแบบธรรมดา ตลอดจนการสร้างต้นแบบที่รวดเร็ว อุตสาหกรรมที่ต้องมีประสิทธิภาพสูงอย่าง การแข่งรถ การบินอวกาศ ก็ได้เลือกใช้การพิมพ์ 3 มิติในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพราะสามารถปรับแบบในคอมพิวเตอร์และพิมพ์ออกมาได้ในทันที 

จากแต่เดิมต้องรอสั่งผลิตจากซัพพลายเออร์และต้องขนส่งไปมาซึ่งใช้เวลาเป็นอย่างมาก ปัจจุบันการพิมพ์ 3 มิตินั้นถ้ามีเครื่องพิมพ์และวัสดุก็สามารถทำได้ทันที ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3 มิติส่วนใหญ่ออกแบบให้เครื่องพิมพ์นั้นสามารถทำงานครบจบในเครื่องเดียว และสามารถนำไปเป็นสถานีหนึ่งในสายการผลิตได้เลย

‘โตโยต้า’ ลูกค้ารายแรกของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ‘Stratasys F3300’ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการสนับสนุนการผลิตและการสร้างต้นแบบ (Prototyping) โตโยต้า เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ การที่โตโยต้าเลือกใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติเป็นตัวบ่งชี้ถึงความมั่นใจในการใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ

Dallas Martin, Additive Application Engineer, Toyota (left) and Scott Crump, Chief Innovation Officer, Stratasys, alongside the new Stratasys F3300 unveiled today at Formnext tradeshow for Additive Manufacturing, Germany.

Dallas Martin, Additive Application Engineer ของ โตโยต้า (ซ้าย) และ Scott Crump, Chief Innovation Officer ของ Stratasys (ขวา) พร้อมกับเครื่องพิมพ์ Stratasys F3300 ใหม่ ที่เปิดตัวในงานแสดงสินค้า Formnext 2023 สำหรับการผลิตแบบเติมวัสดุ ที่ประเทศเยอรมนี

(ที่มา: Stratasys)

‘Stratasys’ บริษัทการพิมพ์ 3 มิติ ประกาศว่า โตโยต้า ได้ลงนามในข้อตกลงเป็นลูกค้ารายแรกที่ซื้อเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ‘Stratasys F3300’ ที่ล้ำสมัยตัวใหม่ โตโยต้าจะใช้ F3300 ตัวใหม่นี้รองรับการผลิตใหม่ รวมถึงชิ้นส่วนและฟิกเจอร์ต่าง ๆ ตลอดจนแอปพลิเคชันการสร้างต้นแบบเพื่อช่วยนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น

คลิปวิดีโอ เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติ Stratasys F3300 ใหม่

F3300 เป็นเครื่องพิมพ์ระบบ FDM (Fusion Deposition Modelling หรือ การหลอมวัสดุเส้นพลาสติกให้กลายเป็นของเหลวและฉีดออกมาเป็นเส้นด้วยหัวฉีด) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Stratasys สร้างขึ้นเพื่อขยายการผลิตแบบเติมวัสดุ โดยสามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนและมีความแม่นยำสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการออกแบบและการใช้งานของยานพาหนะตั้งแต่ต้นแบบไปจนถึงส่วนประกอบใช้งานปลายทาง เครื่องพิมพ์ได้เพิ่มความอเนกประสงค์มากขึ้นด้วยการปรับเปลี่ยนและการโหลดที่เร็วขึ้น มีการสอบเทียบอัตโนมัติ และสามารถผลิตได้ปริมาณงานที่สูงขึ้น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ F3300 จึงลดต้นทุนต่อชิ้นส่วนลงได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ พิมพ์ได้เร็วกว่าเครื่องพิมพ์ FDM สำหรับการผลิตอื่น ๆ มากขึ้นถึง 2 เท่า และยังมีความถูกต้องแม่นยำเพิ่มขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ในปัจจุบันประสิทธิภาพและความสามารถที่ได้จาก F3300 เปรียบได้กับชื่อเสียงของโตโยต้าในด้านการส่งมอบยานยนต์นวัตกรรมคุณภาพสูงให้กับลูกค้าทั่วโลก

Toyota will utilize the new Stratasys F3300 for new production support and prototyping applications, to help bring products to market faster.

โตโยต้าจะใช้ F3300 ตัวใหม่นี้รองรับการผลิตใหม่ รวมถึงชิ้นส่วนและฟิกเจอร์ต่าง ๆ ตลอดจนแอปพลิเคชันการสร้างต้นแบบเพื่อช่วยนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น

(ที่มา: Stratasys)

“การมีโอกาสนำเครื่องพิมพ์ 3 มิติ F3300 เข้ามาร่วมกับการปฏิบัติงานเติมวัสดุนั้นถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ไปสู่การบรรลุเป้าหมายองค์กรของเรา ความสามารถของเครื่องพิมพ์ F3300 จะช่วยให้เราสามารถมีโอกาสเปิดตัวการผลิตแบบเติมวัสดุใหม่ ๆ ของเราได้เร็วขึ้น” Eduardo Guzman ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีขั้นสูงของโตโยต้ากล่าว“เรามีความสนใจร่วมกันในการนำเสนอนวัตกรรมและคุณภาพที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าของเรา และการร่วมมือกับโตโยต้าแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาการผลิตที่ดีขึ้น ชาญฉลาด และยั่งยืนมากขึ้น เครื่องพิมพ์นี้สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงการผลิตเป็นหลัก ซึ่งคำจำกัดความสำหรับ F3300 กับการผลิตแบบเติมวัสดุในโรงงานอุตสาหกรรม คือ ลดต้นทุน รวดเร็ว และความสะดวกในการให้บริการ” Rich Garrity, Chief Industrial Business Unit Officer ของ Stratasys กล่าว

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/

บทความที่น่าสนใจ

About The Author