ในประเทศไทยเรื่องกระแสค่าแรงขั้นต่ำที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นได้อีกอย่างก้าวกระโดด หลังจากที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้เป็นอันดับ 1 และ 2 ในการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองพรรคชูนโยบายการขึ้นค่าแรงแบบก้าวกระโดด ในส่วนของพรรคก้าวไกล คือ ขึ้นค่าแรงทันทีที่ 450 บาท และเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทุกปี ต้นทุนค่าแรงของผู้ประกอบการจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปในอนาคต
ปัจจัยนี้จะทำให้ช่องว่างระหว่างการลงทุนในการใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น ไม่เฉพาะบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น แต่บริษัทขนาดกลางก็สามารถได้ประโยชน์จากระบบการผลิตแบบอัตโนมัติด้วยเช่นเดียวกัน หมายถึง การที่จะไม่ใช้คนในกระบวนการเลย ใช้หุ่นยนต์ลำเลียงวิ่งไปหยิบชิ้นงานจากที่เก็บมาโหลดและนำชิ้นงานออกจากเครื่องระหว่างเครื่องจักรต่าง ๆ รวมถึงการพลิกชิ้นงานให้เป็นด้านที่ต้องดำเนินการก่อนป้อนเข้าเครื่องจักรถัดไปอีกด้วย เครื่องจักรทั้งหมดถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ ทำงานประสานกันได้อย่างไร้ที่ติโดยใช้พื้นที่น้อยที่สุด ในบทความนี้จะกล่าวถึงตัวอย่างของระบบการผลิตแบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ดังกล่าว
มีหลายเหตุผลที่นำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขาดแคลนแรงงาน ความซับซ้อนในกระบวนการผลิต ไปจนถึงการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งโซลูชันรุ่นล่าสุดนี้ช่วยให้การผลิตที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น
เครื่องจักรที่ครบองค์ประกอบของรถบรรทุกดรัมเบรก VL 8 หุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับการโหลดจำนวน 4 เครื่อง
(ที่มา: Emag)
ในปัจจุบันทางยุโรปมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นในการรับจ้างผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่บริษัทซัพพลายเออร์ขนาดกลาง แต่จะพัฒนาโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับงานการผลิตของตนเองให้เกิดความคุ้มค่าได้อย่างไร?
ตัวอย่างแนวทางในการพัฒนาโซลูชัน คือ การเลือกใช้โซลูชันลักษณะที่เป็นโมดูลาร์ ซึ่งหมายถึง หน่วยการผลิตที่สามารถปรับขนาดได้โดยการเพิ่มหน่วยการผลิตเข้าไป และมีหุ่นยนต์ลำเลียง (Trans Lift) วิ่งไปมาเพื่อป้อนชิ้นงานเข้าและออกระหว่างเครื่องจักร โดยหุ่นยนต์ผลิตและลำเลียงทั้งหมดสามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่านเครือข่ายกลาง การทำงานที่รวดเร็วฉับไว ถูกต้อง แม่นยำ ประสานกันได้อย่างไร้ที่ติ เพื่อให้การผลิตแต่ละขั้นตอนมีประสิทธิภาพ และเกิดความสูญเปล่าน้อยที่สุดระหว่างขั้นตอนการผลิต โดยผ่านการออกแบบกระบวนการอัตโนมัติและการเขียนโปรแกรม NC ที่คำนวณไว้ล่วงหน้า
ผู้ผลิตเครื่องจักร Emag นำเสนอโซลูชันระบบการผลิตอัตโนมัติที่มาจากแหล่งเดียว แต่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการและเงื่อนไขของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งกระบวนการผลิตที่เป็นอัตโนมัติและมีความยืดหยุ่นเหล่านี้ส่งผลให้ต้นทุนลดลง ในขณะที่คุณภาพและความน่าเชื่อถือของกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น
บริษัท Pucktechnik ตั้งอยู่ในที่ Solbiate Arno ใกล้เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นตัวอย่างในการใช้ระบบอัตโนมัติจาก Emag บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และปัจจุบันผลิตเครื่องมือหล่อโลหะและส่วนประกอบต่าง ๆ มีเครื่องจักรเกือบ 30 เครื่อง รวมทั้งเครื่องกลึง Emag VL จำนวน 11 เครื่องและเครื่องกัดเฟือง K 160 LA จาก Emag Koepfer โซลูชันเหล่านี้ใช้กับการผลิตที่เป็นอัตโนมัติในปริมาณการผลิตที่สูง ปัจจุบัน Pucktechnik สามารถผลิตล้อและดุมล้อสำหรับรถขนดินได้ประมาณ 650,000 ชิ้นในแต่ละปี สิ่งที่น่าสนใจ คือ บริษัทใช้สายการผลิต 4 สาย ที่มีระบบอัตโนมัติระดับสูง เครื่องจักรต่าง ๆ ในแต่ละสายการผลิตถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ผ่าน Track Motion หรือ รางวิ่งสำหรับหุ่นยนต์รับส่งจาก Emag โดยดำเนินกระบวนการทีละขั้นต่อเนื่องกันไป ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นมหาศาลภายใน 2-3 ปี ความสำเร็จนี้ขึ้นอยู่กับการใช้เครื่องจักรแนวตั้งซึ่งสามารถให้ประสิทธิภาพในการผลิตสูงสุดแต่ใช้พื้นที่น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เครื่อง VL สามารถใช้ร่วมกับระบบอัตโนมัติ Track Motion โดยหลักการทางเทคโนโลยีพื้นฐานของสายการผลิตเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง VL ประเภทใดก็ตาม
- Trans Lift สำหรับยกและพลิกบนราง Track Motion พร้อมที่หนีบจับไฟฟ้า (Gripper) เพื่อหยิบชิ้นส่วนวัตถุดิบจากที่จัดเก็บชิ้นส่วน ขนส่งไปยังเครื่องจักรด้วยความเร็วถึง 150 เมตรต่อนาที และวางไว้บนอุปกรณ์รับส่งภายในเครื่องจักร หรือ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ Trans Lift จะนำชิ้นงานที่ทำงานเสร็จแล้วไปวางเครื่องจักรถัดไปและหยิบชิ้นงานที่ทำเสร็จแล้วขึ้นเพื่อนำไปรอเข้าเครื่องถัดไปนั่นเอง
- แกนหมุน (Spindle) ที่จัดวางในแนวตั้ง สามารถหยิบชิ้นงานจากตำแหน่งอุปกรณ์รับส่ง และนำเข้าไปในพื้นที่ทำงานของเครื่องจักร
- หลังจากนั้นชิ้นงานจะถูกปล่อยออกจากเครื่องจักรผ่านอุปกรณ์รับส่งและขนส่งไปยังเครื่องจักรถัดไปหรือสายพานสำหรับปล่อยชิ้นงานโดยใช้ระบบ Track Motion หากจำเป็น Trans Lift ยังสามารถพลิกส่วนประกอบได้ด้วย
สามารถดูคลิปวีดีโอการทำงานของ Emag VL ร่วมกับ Track Motion เพื่อความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นได้จากในลิงก์ด้านล่าง
การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการหยิบของ Emag และโซลูชันระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Track Motion หรือ หุ่นยนต์ ส่งผลให้ระบบสามารถปรับเปลี่ยนได้และมีประสิทธิภาพสูง เครื่องจักรใหม่ ๆ สามารถถูกผสานรวมเข้ามาในกระบวนการได้ตลอดเวลา ผู้ผลิตตามสัญญา (Contract Manufacturer) และผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) จะได้รับประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ พวกเขาสามารถผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ข้อผิดพลาดจะน้อยลง และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เช่น เฟือง เพลา ดุมล้อ ห้องเฟืองเพลาท้าย และส่วนประกอบอื่นอีกมากมาย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การออกแบบรอบเวลาของแต่ละสถานีต้องออกแบบให้มีรอบเวลาใกล้เคียงสอดคล้องกัน (Line Balancing) เพราะปริมาณงานของระบบการผลิตทั้งระบบจะเท่ากับกระบวนการที่เป็นคอขวดของทั้งสายการผลิตเสมอ ซึ่งหมายถึง พื้นฐานของวิศวกรรมโรงงานยังคงเหมือนกับการใช้แมนนวลทุกอย่าง แม้ว่าการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติจะมีความรวดเร็วมากขึ้น แต่การจัดการคอขวดยังคงใช้แนวคิดแบบเดิม
บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/
บทความที่น่าสนใจ
- เริ่มต้นการผลิตแบบอัตโนมัติ ต้องทำอย่างไร?
- ระบบอัตโนมัติเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทำให้การผลิตฉลาดขึ้นได้อย่างไร
- ไต้หวัน โชว์เทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะสุดล้ำ
- การตัดเฉือนที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นกว่าที่คุณจะสามารถวัดได้
About The Author
You may also like
-
Pressmate ซอฟต์แวร์จำลองการเสียรูปของแม่พิมพ์ปั๊มกด ช่วยลดต้นทุนและเวลาได้ถึง 40%
-
ระบบค้นหาตำแหน่งแม่พิมพ์ภายในอาคารจาก HASCO
-
E-Z Lok เปิดตัวคลังแค็ตตาล็อกแบบจำลอง CAD ออนไลน์
-
RJG เปิดตัว ‘MAX’ ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อยกระดับการควบคุมกระบวนการฉีดขึ้นรูป
-
ซอฟต์แวร์ Vericut Force ช่วยทีม Mercedes-AMG F1 ลดเวลาการผลิตลงได้ถึง 25%