PTC เปิดตัว Creo+ โซลูชัน CAD บนคลาวด์เพื่อทำงานและออกแบบร่วมกันได้ง่ายขึ้น

PTC เปิดตัว Creo+ โซลูชัน CAD บนคลาวด์เพื่อทำงานและออกแบบร่วมกันได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันที่มีการทำงานบน Google Document หรือ Google Sheet โดยที่ไฟล์งานจะอยู่บนคลาวด์และสามารถเปลี่ยนและแก้ไขในเวลาเดียวกันได้ เปรียบเสมือนการนำชิ้นงานมาวางบนโต๊ะและมีหลาย ๆ คน ทำงานร่วมกันบนชิ้นงานนั้น ๆ แนวปฏิบัตินี้ได้นำมาใช้กับโซลูชัน CAD (Computer Aided Design) ซอฟต์แวร์ Creo จะอยู่บนคลาวด์ บริการโดย Saas (Software as a Service) ผู้ใช้งานไม่ต้องลงโปรแกรมบนเครื่อง แต่เป็นการเข้าใช้ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในคลาวด์ในลักษณะเดียวกันกับที่เราใช้ Gmail โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงซอฟต์แวร์ Gmail บนเครื่อง บทความนี้จะกล่าวถึง PTC ที่ใช้ Creo+ พร้อมกับซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุด Creo 10 ข้อดี คือ การประสานงานสามารถทำได้รวดเร็วและง่ายขึ้น ไม่มีข้อผิดพลาดที่เกิดจากการส่งรับไฟล์ และอัปเดตทับลงบนไฟล์โดยไม่ต้องตั้งค่าเป็นเวอร์ชันล่าสุด ไม่ต้องมารวมงานกันอีกซึ่งเสียเวลาซ้ำซ้อนมาก นอกจากนี้ไม่ต้องลงโปรแกรมทีละเครื่องอีกต่อไป การอัปเดตใหม่ของโปรแกรมสามารถทำได้บนคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว และทุกคอมพิวเตอร์ในบริษัทจะได้รับการอัปเดตล่าสุดพร้อม ๆ กัน เพราะซอฟต์แวร์ที่อัปเดตอยู่บนคลาวด์ ไม่ได้อยู่ในแต่ละเครื่อง

PTC พัฒนาระบบคลาวน์สำหรับโซลูชันการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้ CAD และ Creo10 ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและจำลองวัสดุคอมโพสิตเพื่อผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบา ในขณะที่ยังรักษาความแข็งแกร่งและทนทานไว้ และมีการเปิดตัว Creo+ ที่เป็น Saas (Software as a Service) ควบคู่กันกับ Creo10 โดยสิ่งที่ Creo+ มีแตกต่างจาก Creo10 คือ ซอฟต์แวร์อยู่บนคลาวด์ (Cloud-Based) แทนการติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ สำรวจ แก้ไขการออกแบบเดียวกันและพร้อมกันได้ ผู้ใช้งานแต่ละคนก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานคนอื่นได้แบบเรียลไทม์

สามารถดูคลิปวิดีโอการอัปเดตของ Creo10 และ Creo+ ได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Creo+ users can collaborate on the same designs simultaneously with internal and external partners.

ผู้ใช้งาน Creo+ สามารถทำงานร่วมกันบนการออกแบบเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งผู้ที่อยู่ภายในและภายนอกบริษัท

(ที่มา: PTC)

Creo+ เป็นการรวมฟังก์ชันการทำงานและประสิทธิภาพของ Creo กับเครื่องมือบนคลาวด์เพื่อยกระดับความร่วมมือในการออกแบบและทำให้การจัดการ CAD เป็นเรื่องง่าย Creo+ ยังรวมแอปพลิเคชัน PTC Control Center ที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม Atlas SaaS ทำให้การติดตั้ง ปรับใช้ และการจัดการสัญญาอนุญาตซอฟต์แวร์เป็นเรื่องง่าย

“การพัฒนานี้จะทำให้ลูกค้าสามารถออกแบบได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และทำงานร่วมมือกันมากขึ้นกว่าเดิม เรารวมความสามารถในการออกแบบระดับแนวหน้าในตลาดของ Creo ให้เข้ากับประโยชน์ด้านการผลิตผ่านคลาวด์ ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันบนการออกแบบเดียวกันและพร้อมกันได้ทั้งภายในและภายนอกบริษัท เป็นการช่วยให้เกิดกระบวนการพัฒนาให้เร็วขึ้นและลดการออกแบบใหม่” Brian Thompson, General Manager ของ Creo ที่บริษัท PTC กล่าว 

ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ สำรวจ และแก้ไขการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้พื้นที่ทำงานเฉพาะด้วยจำนวนคนเท่าใดก็ได้ เป็นการช่วยผลักดันให้เกิดฟีดแบคตั้งแต่เนิ่น ๆ จากผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทุกคนสามารถเห็นการออกแบบเดียวกันและพร้อมกัน

ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้งและอัปเดต Creo+ ได้จากคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว ช่วยลดเวลาในการติดตั้ง กำหนดค่า และอัปเดตซอฟต์แวร์ Creo+ ทำให้การมอบหมาย ติดตั้ง และปรับสัญญาอนุญาตตามข้อกำหนดของผู้ใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเข้าถึง PTC Control Center ได้ผ่านอินเตอร์เฟซบนคลาวด์ที่เรียบง่าย และไม่ซับซ้อน

คลิปวิดีโอด้านล่างเป็นการแนะนำ PTC Control Center

ไฟล์ CAD จาก Creo เวอร์ชันก่อน ๆ ที่ติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถเปิดใช้งานกับ Creo+ ได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแปลงข้อมูลใด ๆ เพราะ Creo และ Creo+ ใช้เทคโนโลยีหลักเดียวกัน โดย Creo10 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวพร้อม Creo+ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและจำลองวัสดุคอมโพสิตสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาได้โดยรักษาความแข็งแรงและทนทานไว้ โดย Creo+ มีทุกความสามารถของ Creo10

สามารถชมคลิปวืดีโอ การอัปเดตสิ่งใหม่ที่มีใน Creo10 และ Creo+ ตามลิงก์ด้านล่าง

About The Author