การพิมพ์ 3 มิติมีความยืดหยุ่นทั้งในการสร้างต้นแบบ (Prototyping) และการผลิตจริง สามารถสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิผลได้ และยังเหมาะสำหรับการผลิตสินค้าในรูปแบบที่ปรับให้เข้ากับผู้ใช้แต่ละราย (Personalisation) เนื่องจากสามารถเปลี่ยนการออกแบบได้ง่ายบนคอมพิวเตอร์
โดยปัจจุบันมีแพลตฟอร์มจัดหาผู้ผลิต 3 มิติอย่าง ‘Replique’ ทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถจ้างผลิตได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนเครื่องจักร เป็นการลดอุปสรรคในการเริ่มต้นธุรกิจลงได้
สินค้าและบริการเดิมที่ปรับให้เข้ากับผู้ใช้งานเฉพาะบุคคล
วิวัฒนาการของสินค้าและบริการต่าง ๆ พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าแบบออนไลน์ การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน การจ้างงานผ่านแพลตฟอร์ม ตลอดจนช่องทางการขายที่เป็น Omni-Channel หมายถึง การผสมผสานกันระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจากเว็บของห้างสรรพสินค้าและสามารถไปรับได้ที่ห้างและยังได้ลองสินค้าจริงเมื่อไปรับได้อีกด้วย เมื่อระบบต่าง ๆ ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว การซื้อสินค้าไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ ข้อมูลแต้มคะแนนสะสมก็จะปรากฎในแอปทันที การทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดก็เป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในการทำธุรกิจใหม่นั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีสินค้าหรือบริการใหม่เสมอไป แต่เป็นการจับสินค้าเดิมมาทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ปรับให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรายมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ‘อวัยวะเทียม’ ที่จำเป็นต้องพิมพ์ขึ้นมาเฉพาะให้เข้ากับสรีระของผู้พิการแต่ละคน หรือ ‘ฟันปลอม’ ที่จำเป็นต้องมีการพิมพ์แบบฟันเพื่อนำไปผลิตฟันปลอมที่ใส่ได้พอดี
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ อวัยวะเทียมแบบกำหนดเอง ด้วยการพิมพ์ 3 มิติ ตามลิงก์ด้านล่าง
การผลิตที่หลากหลายและยืดหยุ่นนี้สามารถผลิตได้ด้วยการพิมพ์ 3 มิติ ด้วยการพิมพ์ชิ้นงานเฉพาะตามแบบ และสามารถปรับแบบให้เข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ แม้ว่าจะไม่ได้ผลิตสินค้าหรือบริการขึ้นมาใหม่แต่ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีในปัจจุบันได้ เช่น การหากำลังการผลิตผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการพิมพ์ 3 มิติอย่าง
‘Replique’ ซึ่งเป็นบริการแบบเดียวกับการเรียก GRAB แต่แทนที่จะซื้อเวลาใช้งานของรถยนต์พร้อมคนขับ เปลี่ยนเป็นการซื้อกำลังการผลิตช่วงเวลาหนึ่งจากผู้ผลิตที่ใช้การพิมพ์ 3 มิติที่ลงทะเบียนในแพลตฟอร์ม Replique แทน
บทความเกี่ยวกับ Replique แพลตฟอร์มการหาการผลิตแบบ On Demand เปลี่ยนการเก็บ ‘อะไหล่จริง’ มาเป็น ‘ไฟล์ดิจิทัล’ สั่งผลิตเมื่อต้องการ ตามลิงก์ด้านล่าง
เจ้าของผลิตภัณฑ์เพียงแค่มีไฟล์ดิจิทัลและอัปโหลดไฟล์นั้นเข้าสู่แพลตฟอร์ม ‘Replique’ โดยที่แพลตฟอร์มนี้จะให้คำแนะนำทั้งทางด้านพาณิชย์และเทคโลยีการผลิต เมื่อผ่านกระบวนการให้คำแนะนำไฟล์ดิจิทัลจะถูกอัปโหลดเข้าไปในระบบของ Replique และสามารถสั่งผลิตได้แบบ On-Demand ซึ่งไฟล์ดิจิทัลนี้จะถูกแชร์ไปยังผู้ผลิตที่มีความสามารถในการผลิต กำลังการผลิต และสถานที่ตั้งที่พร้อมกับการผลิต เป็นสถานการณ์ที่ Win-Win ทั้งสองฝ่าย หมายถึง ผู้ผลิตเองก็สามารถทำรายได้เพิ่มจากกำลังการผลิตที่เหลืออยู่ในช่วงเวลาเฉพาะ ในขณะที่สตาร์ทอัพหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรราคาสูงทำให้การเริ่มต้นทำธุรกิจและทดลองตลาดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ลดอุปสรรคจากเงินลงทุนที่สูง แต่การลงทุนในเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นในระยะถัดมา เมื่อสตาร์ทอัพหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นมั่นใจว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์มีความต้องการที่มาก สม่ำเสมอ และมีคำสั่งซื้อที่มากขึ้น
สำหรับบทความนี้เป็นตัวอย่างของบริษัทที่ใช้บริการหากำลังการผลิตจากแพลตฟอร์มการพิมพ์ 3 มิติอย่าง Replique เพื่อผลิตรถวีลแชร์ที่เหมาะสำหรับผู้พิการแต่ละคน โดยบริษัทได้ประโยชน์ด้านการผลิตต้นแบบที่รวดเร็ว และระยะเวลาในการนำสินค้าสู่ตลาดที่เร็วขึ้น
Replique บริษัทแพลตฟอร์มในการหากำลังการผลิตดิจิทัลสัญชาติเยอรมัน มุ่งเน้นการสร้างกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่เรียบง่ายและยั่งยืน โดยใช้ ‘Multi Jet Fusion’ ของ HP เทคโนโลยีชั้นนำทางอุตสาหกรรมเพื่อปฏิรูปวิธีออกแบบและผลิตรถวีลแชร์ ทำให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดต้นทุน รวมถึงสามารถปรับให้เข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคนได้อีกด้วย
คลิปวิดีโอ การพิมพ์สามมิติด้วย HP Multi Jet Fusion
Rehamed Power ผู้ผลิตอุปกรณ์กายภาพบำบัดและการฟื้นฟูสมรรถภาพ กำลังพัฒนาและนำรถวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ‘RP1’ ออกสู่ตลาด ซึ่งก่อนนั้น Rehamed Power ต้องเจอกับปัญหาด้านต้นทุนในการผลิตชิ้นส่วน เนื่องจากการผลิตแบบเดิมต้องลงทุนสูง เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ค่อนข้างแพง ตลอดจนต้นทุนในการผลิตต้นแบบและเวลาที่นำสินค้าออกสู่ตลาด
รถวีลแชร์ RP1 ของ Rehamed Power ผู้ป่วยจะอยู่ในที่นั่งคนขับ โดยสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการและไลฟ์สไตล์ ตลอดจนมีสีให้เลือกหลากหลาย
(ที่มา: Replique)
Replique ร่วมมือกับ Rehamed Power ในการหาแนวทางการผลิตแบบเติมวัสดุสำหรับการออกแบบวีลแชร์ ตั้งแต่การสร้างต้นแบบไปจนถึงการผลิตจำนวนมาก โดยใช้เทคโนโลยี ‘Multi Jet Fusion’ (MJF) ของ HP ซึ่งสามารถพิมพ์ 3 มิติด้วย PA12 (โพลีอะไมด์ 12) ได้ และยังผลิตได้มากกว่าที่วางแผนไว้อีกด้วย
นอกจากการประหยัดต้นทุนที่ไม่ต้องใช้แม่พิมพ์ฉีดขึ้นรูปแล้ว การจัดเก็บไฟล์ผ่านแพลตฟอร์มคลังสินค้าดิจิทัลของ Replique ยังช่วยลดต้นทุนลงไปอีก ทำให้สามารถนำสินค้าออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นและรักษาระดับเงินทุนหมุนเวียนของ Rehamed Power ได้ ทุกวันนี้ Rehamed Power ใช้เวลาในการพัฒนาการผลิตลดลงได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังลดต้นทุนการสร้างต้นแบบลงได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับการฉีดขึ้นรูป จากโซลูชันดังกล่าวนี้ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ ลูกค้าและผู้ป่วยที่ได้รับการบริการจากบริษัทและความใส่ใจในการปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคลมากขึ้น
ผู้พิการแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ตัวเลือกการปรับให้วีลแชร์เหมาะกับผู้พิการแต่ละรายนั้นก็ยังคงมีไม่มากในปัจจุบัน เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติกำลังปูทางให้เกิดขึ้น โดยการทำให้วีลแชร์มีความยืดหยุ่นและปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละรายได้มากขึ้น ด้วยรถวีลแชร์ RP1 ของ Rehamed Power ที่ผู้ป่วยจะอยู่ในที่นั่งคนขับและสามารถปรับแต่งและปรับใช้ส่วนต่าง ๆ ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ ตลอดจนเลือกสีของวีลแชร์ได้อย่างหลากหลาย
ความสำเร็จจากการเปิดตัวรถวีลแชร์ RP1 ในปีที่ผ่านมา ทำให้มีการใช้ RP1 กันอย่างแพร่หลายทั่วทั้งยุโรปและไปไกลถึงนิวซีแลนด์ Rehamed Power วางแผนที่จะต่อยอดแรงผลักดันนี้ด้วยการผสมผสานการออกแบบการผลิตแบบเติมวัสดุกับรถวีลแชร์ RP1 อีกทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นโซลูชันทางด้านนวัตกรรมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีบริการอะไหล่สำรองผ่านเครือข่ายการผลิต Replique ไปทั่วโลก ทำให้ผู้ป่วยและลูกค้าสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ตลอดตามที่ต้องการ
“เราสามารถเซฟเวลาในการพัฒนางานได้เป็นอย่างมาก ด้วยต้นแบบพิมพ์ 3 มิติ การทำงานกับ Replique ทำให้เราสามารถยืดหยุ่นในการวางแผนการผลิตแบบ On Demand ได้ ทำการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และสามารถผลิตชิ้นส่วนพิเศษตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้” Thyl Junker, Head of Development ของ Rehamed Power กล่าว
“การที่เราได้ทำงานกับ Rehamed Power แสดงให้เห็นว่าการพิมพ์ 3 มิติ เป็นได้มากกว่าการสร้างต้นแบบที่มีประสิทธิภาพ ยังช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอโซลูชันที่ปรับการใช้งานได้สูง ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิผลต้นทุนและมีความยืดหยุ่นในการผลิตได้มาก” Mark Winker, Technical Sales Manager ของ Replique กล่าวเสริม
บทสรุปของบทความนี้ คือ สตาร์ทอัพที่ต้องการผลิตสินค้าและบริการใหม่เข้าสู่ตลาดสามารถเลือกใช้บริการจัดหากำลังการผลิตในระยะเริ่มต้นได้ โดยไม่ต้องลงทุนสูง แพลตฟอร์มสมัยใหม่อย่าง Replique นอกจากจัดหากำลังการผลิตจากผู้ผลิตที่มีคุณสมบัติแล้ว ยังให้คำปรึกษาทั้งเชิงเทคนิคและเชิงพาณิชย์ รวมถึงการจัดเก็บอะไหล่หรือชิ้นส่วนในการผลิตในรูปแบบดิจิทัล แล้วสั่งผลิตเมื่อต้องการ สิ่งนี้เป็นการช่วยเพิ่มความยั่งยืนอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน
บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/
บทความที่น่าสนใจ
- Aim 3D ใช้วัสดุ ‘เรซิน Ultem 9085’ ในการพิมพ์ 3 มิติ ลดต้นทุนได้ถึง 7 เท่า !!
- ‘เปอร์โยต์’ ปฏิวัติการออกแบบ ใช้การพิมพ์ 3 มิติ ตกแต่งภายในยานยนต์ไฟฟ้า
- ‘PET CF’ วัสดุคอมโพสิตสำหรับการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อให้ชิ้นส่วนแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น
- เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ โซลูชันการผลิตและพัฒนาต้นแบบอย่างยั่งยืน
- ยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ในสวนด้วยอะไหล่พิมพ์ 3 มิติ ลดของเสีย เพิ่มความยั่งยืน
About The Author
You may also like
-
‘Vapor Smoothing’ เทคนิคการทำหลังกระบวนการที่ทำให้ TPU กันน้ำและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ
-
Trumpf ร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านอวกาศ เพื่อภารกิจอวกาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
Quickparts แนะนำทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการรอสินค้า สำหรับการพิมพ์ 3 มิติ
-
Stratasys เพิ่ม 6 วัสดุการพิมพ์ 3 มิติใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
-
Stratasys และ Encee GmbH ร่วมกันขยายโซลูชันการพิมพ์ 3 มิติสู่ภาคส่วนการแพทย์