สวิตเซอร์แลนด์ — Swiss Steel Group ได้ลงนามใน SBTI Commitment ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการจำกัดสภาวะโลกร้อนให้ได้ด้วยการลดอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกลง 1.5 °C ด้วยเหตุนี้ ทางกลุ่มจึงได้ดำเนินการตามมาตรการกำจัดคาร์บอนในกระบวนการผลิตจนกระทั่งเป็นศูนย์สุทธิ หรือ net zero ให้ได้ตามที่ได้สัญญาไว้
ในการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 21 (COP 21) เมื่อปี 2015 ข้อตกลงด้านสภาพอากาศปารีส (Paris Climate Agreement) ที่มีผลผูกพันทางกฎหมายได้รับการรับรองโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดภาวะโลกร้อนให้ได้สูงสุด 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป้าหมายนี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่ออุตสาหกรรมเข้ามาให้ความร่วมมือ และความคิดริเริ่มนี้ก็ได้รับการสนับสนุนโดย SBTI (Science Based Targets Initiative) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ Carbon Disclosure Project (CDP), UN Global Compact, World Resources Institute (WRI) และ World Wide Fund for Nature (WWF) โดยมีจุดมุ่งหมายก็คือ เพื่อกำหนดเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ (SBTs – science-based targets) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามมาตรฐานของแนวปฏิบัติขององค์กร

Frank Koch ซีอีโอของ Swiss Steel Group ได้ลงนามใน SBTI Commitment ด้วย ในการดำเนินการตามขั้นตอนนี้ กลุ่มบริษัทและไซต์งานทั้งหมดมุ่งมั่นที่จะนำมาตรการลดคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ภายในปี 2050 เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพอากาศของโลก ถึงตอนนี้นี้ Swiss Steel Group มีเวลาสองปีในการกำหนดเป้าหมายเพื่อกำจัดคาร์บอนและดำเนินการตามนั้นโดยมี SBTI เป็นผู้ตรวจสอบ
“เรามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงความเป็นผู้นำของเราใน Green Steel ที่ดำเนินการผลิตด้วยการปล่อยมลพิษน้อยลงต่อไปจนกว่าจะถึงศูนย์สุทธิ” Frank Koch ยืนยัน ในความพยายามนี้ กลุ่มบริษัทมีเงื่อนไขการเริ่มต้นที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ปริมาณการปล่อยคาร์บอน หรือ carbon footprint ของไซต์การผลิตในสวิสนั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมทั่วโลกในปัจจุบันถึง 90 % “ที่ไซต์อื่นๆ เรายังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมในระดับการเมือง ตัวอย่างเช่น เพื่อให้สามารถผลิตพลังงานไร้คาร์บอน หรือ decarbonized energy ได้ในปริมาณที่เพียงพอ”
ในระหว่างนี้ บริษัท 3,000 แห่งทั่วโลกได้ให้คำมั่นสัญญากับ SBTI เพื่อจะบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศที่กำหนดไว้ Swiss Steel Group ซึ่งมีกำลังการผลิต 100 % จากเตาอาร์คไฟฟ้าต่างก็กำลังดำเนินการตามข้อกำหนดเหล่านี้
- เทรนด์และนวัตกรรมของวัสดุอุตสาหกรรม 10 อันดับปี 2022
- GREEN STEEL: การผลิตเครื่องมือและแม่พิมพ์จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้อย่างไร?
- ลดรอบเวลา MOULD TOOLS ด้วยการพิมพ์ 3 มิติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- SUSTAINABILITY: TOP 10 เทรนด์ยั่งยืนโลกในมุมมองของอุตสาหกรรม
Conformity certificate by TÜV Süd – ใบรับรองผลิตภัณฑ์โดย TÜV Süd
ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การกำจัดคาร์บอน Swiss Steel Group มีระดับคาร์บอนในการผลิตที่ได้รับการตรวจสอบแล้วที่โรงงาน Steeltec ในสวิตเซอร์แลนด์ และบริษัทในเครือในเยอรมนีและตุรกี ทั้งนี้ การประเมินค่าอ้างอิงพื้นฐานโฟกัสไปที่ กระบวนการผลิตทั้งหมดตั้งแต่การหลอมเหล็กไปจนถึงการผลิต bright steel ที่โรงงาน Steeltec
และเพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของผู้ผลิตทุกราย ขั้นตอน Veristeel ของ TÜV Süd จะจับคู่กระบวนการที่เกี่ยวข้องและโฟลวของวัสดุทั้งหมดเพื่อตรวจสอบการปล่อย CO2 ของกระบวนการผลิต วิธีการที่ซับซ้อนในการบันทึกการปล่อย CO2 นี้สร้างพื้นฐานที่โปร่งใสทั้งสำหรับกิจกรรมแต่ละรายการและสำหรับกระบวนการกำจัดคาร์บอนทั้งหมด ขั้นตอน Veristeel เป็นไปตาม ISO/IEC 17029 และมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องสำหรับการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (เช่น ISO14064 และ 14067 เป็นต้น) ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอน Veristeel ตอนนี้ Steeltec ได้เตรียมการประเมินค่าอ้างอิงพื้นฐานเรียบร้อยแล้ว และกำลังวางรากฐานที่เกี่ยวข้องสำหรับขั้นตอนการแยกคาร์บอนเพิ่มเติม
แม้ว่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ปล่อยออกมาต่อตันของเหล็กดิบที่ผลิตในกระบวนการที่ใช้เตาหลอมถลุงเหล็กจะอยู่ที่ประมาณสองตัน แต่ปริมาณคาร์บอนที่โรงงาน Steeltec ปล่อยออกมาอยู่ที่ประมาณ 63 kg (ขอบเขต 1 และ 2) และ 260 kg ตามลำดับ (ขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 Upstream) และแม้ว่ากระบวนการผลิตทั้งหมดจะได้รับการพิจารณาตรวจสอบแล้ว ระดับการปล่อยก๊าซของ Steeltec ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมทั่วโลกอย่างชัดเจน
อ้างอิง: https://www.etmm-online.com/swiss-steel-group-pursues-green-transformation-a-eeeed713c5b45876926879b79d585671/
บทความที่เกี่ยวข้อง:
About The Author
You may also like
-
แนวคิดการย้ายฐานการผลิตกลับสู่ประเทศตนเองได้รับความสนใจอีกครั้งในสหราชอาณาจักร
-
ตลาดยุโรปเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตครั้งใหญ่ของพลาสติกชีวภาพ
-
ปัญหาความขัดแย้ง หวั่นกระทบนำเข้า-ส่งออกอุตสาหกรรมเหล็ก
-
จีนบุกตลาดอุตสาหกรรม ‘เครื่องมือตัด’ ทั้งส่งออกและผลิตใช้เอง
-
Arburg เปิดตัว Allrounder 470 H ทางเลือกประหยัดพลังงานและลดการปล่อยคาร์บอน