mould และ die makinG

มิลลิ่ง EDM วัด และทำความสะอาดภายในเซลล์เดียว

ในการผลิตแม่พิมพ์ทั้ง mould และ die making กระบวนการตัดเฉือนแต่ละกระบวนการถูกรวมเข้ากับเซลล์การผลิตแบบอัตโนมัติที่มีการจัดการแบบบูรณาการมากขึ้น ข้อได้เปรียบสำคัญคือระดับการใช้งานเครื่องจักรที่สูงขึ้น เนื่องจากระบบสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีผู้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ทั้งนี้ มีปัจจัยเบื้องต้นสองประการสำหรับการทำให้เกิดระบบอัตโนมัติดังกล่าวนั่นคือกระบวนการดิจิทัลที่เข้มข้นยิ่งขึ้นซึ่งสอดคล้องกับอุตสาหกรรม 4.0 และระดับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

บริษัทหนึ่งที่เดินตามเส้นทางของระบบอัตโนมัติคือ Festool ผู้ผลิตพาวเวอร์ทูลสัญชาติเยอรมัน ซึ่งผลิตโมลด์ทูลส์ดายคาสติ้งและแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก(plastics injection mounds) สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่โรงงานใน Neidlingen ฝ่ายผลิตเครื่องมือได้ติดตั้งเซลล์การผลิตด้วยหุ่นยนต์โดยใช้เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ที่ผลิตโดย Roeders บริษัทสัญชาติเยอรมัน เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันนี้มีจำหน่ายในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ผ่านตัวแทนเพียงรายเดียวของ Hurco Europe, High Wycombe

Festool’s Tomislav Jurisa (left) and Jürgen Kopsieker are happy with their automated toolmaking cell. (Source: Hurco )

Jürgen Kopsieker หัวหน้าฝ่ายการผลิตเครื่องมือและแม่พิมพ์ใน Neidlingen อธิบายว่าแผนกของเขาต้องแข่งขันกับผู้ผลิตเครื่องมือรายอื่นๆ เพื่อเอาชนะใจลูกค้าจากภายในกลุ่ม ขณะเดียวกันก็ให้บริการในตลาดเปิดแบบฟรีฟ แผนกจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดระเบียบตัวเองให้เป็น profit center เพื่อให้ทันต่อความต้องการของตลาดทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี และราคา

ประมาณสามปีที่แล้ว ผู้ผลิตรายนี้ยังคงมีแผนกเครื่องมือแบบเก่า -old-style toolmaking department ที่มีเครื่องจักรอยู่ 5 เครื่อง เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 3 เครื่อง รวมถึงรุ่น 5 แกนพร้อมเครื่องจักร EDM แบบไดซิงก์และแบบลวด “ทั้งหมดถูกควบคุมโดยโอเปอเรเตอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะตรวจสอบกระบวนการตัดเฉือนแล้ว ยังต้องรับผิดชอบในการติดตรึงชิ้นงาน การขนถ่ายเครื่องจักร ตลอดจนการตั้งค่าและการเปลี่ยนเครื่องมือ นอกจากนี้ หัวหน้างานหรือซูเปอร์ไวเซอร์ยังดูแลด้านการประกันคุณภาพอีกด้วย” Tomislav Jurisa ผู้ประสานงานทีมการผลิตกล่าว การใช้เครื่องจักรจึงไม่น่าพอใจ ดังนั้นในช่วงกลางปี ​​2019 บริษัทจึงตัดสินใจอัพเกรดช็อปการผลิตให้ครอบคลุมกระบวนการทำงานทั้งหมด

“เราต้องการเซลล์การผลิตแบบอัตโนมัติที่มีการผสานรวมทั้งการกัด, EDM, การวัดพิกัด และการทำความสะอาดด้วยน้ำเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์” Jurisa กล่าว




นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีใครดูแลโดยสิ้นเชิง บริษัทจึงกระตือรือร้นที่จะเพิ่มสถานที่จัดเก็บสำหรับหัวกัดและอิเล็กโทรด ตลอดจนสำหรับชิ้นงานที่ติดตั้งบนพาเลท Erowa โดยที่งานขนส่งทั้งหมดดำเนินการโดยหุ่นยนต์จัดการ (handling robot) โดย แนวคิดก็คือ โอเปอเรเตอร์ทำหน้าที่เพียงแค่จัดหาชิ้นงานและเครื่องมือให้กับเซลล์การผลิตและสร้างโปรแกรม NC เท่านั้น

เพื่อให้เป้าหมายนี้สำเร็จ ความรับผิดชอบจึงเป็นของ Roeders ซึ่งได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก บริษัทอื่นๆ ภายในกลุ่ม Festool มีประสบการณ์หลายปีในการใช้งานเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ของ Roeders และรายงานว่า เชื่อถือได้และแม่นยำ ประการที่สอง ซัพพลายเออร์สามารถชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จในการติดตั้งโซลูชันที่สมบูรณ์ครบวงจรจำนวนมากที่เป็นผลจากเซลล์การผลิตแบบอัตโนมัติ รวมถึงการผสานรวมผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นจากแหล่งต่างๆ

ในการติดตั้งเพื่อใช้งาน Roeders ได้จัดหาเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์แบบ 5 แกน RXP สองเครื่องและซอฟต์แวร์จัดการงานหลัก RMS ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร IK Office ของ Festool นอกจากนี้ยังจัดหาหุ่นยนต์ควบคุม Fanuc R-2000iC ที่สามารถทำงานบนรางเส้นตรง (linear rail) ภายในเซลล์ยังมีเครื่องวัดพิกัดหกเหลี่ยม, เครื่อง EDM แบบ Die-sink Exeron และระบบทำความสะอาดอัตโนมัติจาก Mafac

The core of the automated toolmaking cell at Festool’s Neidlingen facility are two Roeders RXP machining centres and a handling robot on a linear rail. (Source: Hurco )

นอกจากนี้ storage room ยังรองรับชิ้นงานวางพาเลท 110 ชิ้นและทูลส์ 258 ชิ้น ซึ่งเสริมด้วยความจุของทูลแมกกาซีนส์ในเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ด้วย

ภายในเซลล์นั้น Roeders RXP 601 DSH ใช้สำหรับการตัดเฉือนหนักเป็นหลัก วัสดุประกอบด้วย 1.2343 hot work tool steel รวมถึง 1.2379 cold work tool steel ด้วย

วัตถุดิบถูกกลึงหยาบในสภาพชุบแข็ง (54 – 60 HRC) และเสร็จสิ้นในขณะที่ยังคงอยู่ในฟิกซ์เจอร์เดียวกัน เมื่อเทียบกับขั้นตอนก่อนหน้าของการกัดหยาบใน soft state จากนั้นจึงชุบแข็งและสุดท้ายจบการทำงานในขั้นที่สอง วิธีการใหม่นี้จึงเร็วกว่าและถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น การประหยัดต้นทุนจึงเป็นผลมาจากการลดเวลาในการปฏิบัติการแบบแมนนวลลงได้อย่างมากนั่นเอง

Kopsieker กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นที่องค์ประกอบแต่ละอย่างในเซลล์ทำงานร่วมกันได้ดี ตัวจัดการงานหลักของ RMS คือระบบเปิดที่มีอินเทอร์เฟซสำหรับสื่อสารกับระบบไอทีของเราเอง รวมถึงซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตเครื่องจักรรายอื่นๆ การทำงานร่วมกันเป็นเลิศระหว่างวิศวกรของ Roeders และวิศวกรที่ Hexagon, Exeron และ Mafac ระบบทั้งหมดในเซลล์ทำงานร่วมกันโดยไม่มีปัญหาใดๆ และการเพิ่มผลผลิตที่คาดการณ์ไว้และคุณภาพของส่วนประกอบก็บรรลุผลได้อย่างน่าเชื่อถือตั้งแต่เริ่มต้น”

เขาเสริมว่าพนักงานของ Festool มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับโครงการนี้ ไม่เพียงแต่ยอมรับความจำเป็นและข้อได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังมีความมุ่งมั่นอย่างแข็งขัน แม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเมื่อต้องรักษาการผลิตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ความจริงที่ว่าซอฟต์แวร์ Roeders นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นข้อดี โครงสร้างและการจัดการโปรแกรมสำหรับการควบคุมเครื่องจักรและ RMS Main job manager ยังได้รับการปรับให้เข้ากับ machine shop ด้วย ดังนั้นการฝึกอบรมหรือการเทรนนิ่งที่จำเป็นจึงน้อยมาก

อ้างอิง: https://www.etmm-online.com/milling-edm-measuring-and-cleaning-in-one-cell-a-89783b160961161149cb82fcb4246126/

บทความที่เกี่ยวข้อง:

About The Author