6K Additive ร่วมมือกับ Agile Space Industries พัฒนาวัสดุพิมพ์ 3 มิติเพื่อภารกิจสู่ดวงจันทร์

6K Additive ร่วมมือกับ Agile Space Industries พัฒนาวัสดุพิมพ์ 3 มิติเพื่อภารกิจสู่ดวงจันทร์

ในปัจจุบันการพิมพ์ 3 มิติมีการใช้งานอย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงอย่างในรถแข่งและใช้ในการบินอวกาศ เทคโนโลยีการผลิตนี้ทะลายข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งอิสระในการออกแบบ และไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำในการผลิต สามารถผลิตชิ้นเดียวได้ จึงเหมาะสำหรับการผลิตต้นแบบ (Prototype) แบบเดียวกับที่ค่ายรถยนต์หรือบริษัทผลิตจรวดใช้ 

แต่เดิมหากบริษัทต้องการแก้ไขหรือผลิตชิ้นส่วนใหม่จะต้องสั่งจากซัพพลายเออร์ อาจใช้เวลารอชิ้นส่วนนาน รวมถึงระยะเวลาในการขนส่ง หากงานที่ปรับแก้มาไม่ถูกต้องก็ต้องส่งกลับไปแก้ใหม่ ทำให้กระบวนการทำงานคืบหน้าไปอย่างล่าช้า แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพียงแค่มีเครื่องพิมพ์และวัสดุก็สามารถพิมพ์เองได้ ค่ายรถแข่งและบริษัทผลิตจรวดในปัจจุบันจึงเลือกที่จะเป็นเจ้าของความสามารถในการผลิตเอง ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มาก หากต้องการปรับแก้ก็สามารถแก้ในคอมพิวเตอร์และพิมพ์ออกมาได้ในทันที แน่นอนว่าการพิมพ์อาจยังใช้เวลานาน แต่ไม่ต้องเสียเวลาในการขนส่งไปกลับอีกต่อไป  

บทความ BAC ใช้การพิมพ์ 3 มิติจาก ULTIMAKER ยกระดับการออกแบบซุปเปอร์คาร์

บทความ การพิมพ์ 3 มิติช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนารถแข่งฟอร์มูล่าวันของแมคลาเรน

การพิมพ์ 3 มิติ ยังมีข้อดีอีกอย่าง คือ เรื่องของความยั่งยืน หากผงวัสดุที่เหลือจากการพิมพ์มีการปนเปื้อนก็ยังสามารถเข้ากระบวนการรีไซเคิลกลับมาเป็นผงวัสดุสำหรับพิมพ์ใหม่ได้ ซึ่งซัพพลายเออร์วัสดุบางรายมีบริการนี้ด้วยเช่นเดียวกัน 

บทความ รีไซเคิลผงโลหะการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า เพิ่มความยั่งยืน

ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการใช้การพิมพ์ 3 มิติเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงนั้นอยู่ที่การเลือกพันธมิตร บริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และซัพพลายเออร์ผงวัสดุที่ดี สามารถช่วยให้ข้อแนะนำที่ดีในการผลิตและตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะสมได้

การรับรองผงวัสดุ Ni 625 เพื่อนำไปใช้ในเครื่องยนต์ไฮเปอร์โกลิกที่สามารถเร่งความเร็วได้ในเวลาต่ำกว่า 650 มิลลิวินาทีนั้นเป็นการปฏิวัติภารกิจบนดวงจันทร์ โดยโครงการนี้จะแสดงให้เห็นว่าการผลิตแบบเติมวัสดุไม่เพียงแต่ลดระยะเวลาการพัฒนาการบินอวกาศเท่านั้น แต่ยังบรรลุเป้าหมายทางสิ่งแวดล้อมด้วยแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนอีกด้วย

Using an integral pintle sleeve throttling mechanism, the engine is capable of deep throttling, providing a smooth ride and fine control for a variety of missions.

การใช้กลไกการเร่งความเร็วแบบ Pintle Sleeve ทำให้เครื่องยนต์สามารถควบคุมความเร็วและฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ดี ขับขี่ได้ราบรื่น 

(ที่มา: 6K Additive)

ความร่วมมือระหว่าง 6K Additive บริษัทผู้ผลิตผงวัสดุพิมพ์ 3 มิติ และ Agile Space Industry บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ขับเคลื่อนจรวด ตั้งเป้าที่จะได้รับการรับรองผง Ni625 เพื่อใช้ในส่วนประกอบที่สำคัญของจรวด รวมถึงในเครื่องยนต์ไฮเปอร์โกลิกแบบเชื้อเพลิงคู่ (Bipropellant) A2200 ของ Agile Space Industries ซึ่งจะใช้กับยานลงจอดดวงจันทร์ เครื่องยนต์นี้ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงต่อการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ ด้วยแรงกระตุ้นจำเพาะมากกว่า 318 วินาที ใช้กลไกการเร่งความเร็วแบบ Pintle Sleeve ทำให้เครื่องยนต์สามารถควบคุมความเร็วและฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ดี ขับขี่ได้ราบรื่น เครื่องยนต์สามารถเร่งความเร็วจาก 50 เป็น 100 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลา 650 มิลลิวินาที จึงเป็นเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญบนดวงจันทร์

Kyle Metsger ผู้อำนวยการเทคโนโลยีการเติมวัสดุของ Agile อธิบายว่า “หากคำนวณตามน้ำหนักพบว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบเครื่องยนต์เป็นการผลิตแบบเติมวัสดุ หมายความว่าเราต้องพึ่งพาผง AM อย่างมากที่สามารถทนต่ออุณหภูมิและความแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการปล่อยจรวดและขณะกำลังบิน 6K Additive ช่วยให้เราสามารถผลิตแบบเติมวัสดุโดยใช้ผงคุณภาพสูงที่จำเป็นต่อการใช้งานของเรา ในขณะเดียวกันยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโปรแกรมการรีไซเคิลและเป็นผงที่ผลิตอย่างยั่งยืนอีกด้วย”

Using an integral pintle sleeve throttling mechanism, the engine is capable of deep throttling, providing a smooth ride and fine control for a variety of missions.

By harnessing the speed and flexibility of AM, Agile is able to compress development time down to twelve months.

6K Additive’s Ni625 powder is being certified for use at Agile’s manufacturing facility.

การพัฒนาส่วนประกอบด้านการบินแต่เดิมอาจใช้เวลามากกว่า 2 ทศวรรษ แต่การควบคุมความเร็วและความยืดหยุ่นของการผลิตแบบเติมวัสดุนั้นทำให้ Agile สามารถลดเวลาในการพัฒนาเหลือเพียง 12 เดือนได้   

“การพัฒนาที่ใช้เวลานานเป็นปีอาจฟังดูเหมือนยาวนานมากในหลายอุตสาหกรรม แต่นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วสำหรับอนาคตอุตสาหกรรมการบินอวกาศ การเปลี่ยนไปสู่เครื่อง Truprint 5000 ที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้เราสามารถกำหนดพารามิเตอร์สำหรับเครื่องจักรและวัสดุได้ในเวลาเดียวกัน” Kyle Metsger กล่าว

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/

บทความที่น่าสนใจ

About The Author