รีไซเคิลน้ำมันหล่อลื่น

การรีไซเคิลน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต

เป้าหมายการปกป้องสภาพภูมิอากาศและการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องหาทางลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตของตน ซึ่งคาร์บอนฟุตพรินต์จะแฝงอยู่ในทุกส่วนของกระบวนการผลิตตลอดจนพลังงานและวัตถุดิบที่ใช้ 

การลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตทำได้โดยการรีไซเคิลวัตถุดิบซึ่งเป็นการให้คาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำกว่าการผลิตวัตถุดิบใหม่ วัตถุดิบที่ผลิตจากสารชีวภาพมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำกว่าวัตถุดิบที่ผลิตจากฟอสซิล รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดแทนการใช้พลังงานและวัตถุดิบที่ทำจากฟอสซิล สิ่งเหล่านี้เป็นหนทางในการช่วยลดคาร์บอน 

ในบทความนี้จะเล่าถึงมาตรการในการลดการปล่อยคาร์บอนของบริษัทเคมีภัณฑ์ที่เลือกใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคาร์บอนต่ำเป็นปัจจัยหลักในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของบริษัท ทุกโรงงานผลิตมีการใช้น้ำมันหล่อลื่นในกระบวนการผลิตเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือตัดและป้องกันชิ้นงานไหม้จากการตัดเฉือน น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้ก็มีคาร์บอนฟุตพรินต์มาด้วย การลดคาร์บอนฟุตพรินต์ในการผลิตน้ำมันหล่อลื่นก็เป็นการช่วยให้บริษัทผู้ผลิตอื่น ๆ ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ในส่วนนี้เช่นเดียวกัน และหากน้ำมันหล่อลื่นไม่ถูกนำมารีไซเคิล บริษัทก็จะมีต้นทุนในการกำจัดซึ่งเป็นต้นทุนที่สูง การเลือกนำกลับมารีไซเคิลและใช้ใหม่จึงเป็นประโยชน์ทั้งการลดคาร์บอนฟุตพรินต์และยังเป็นการลดต้นทุนในการกำจัดที่ราคาแพงอีกด้วย

Zeller+Gmelin ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันหล่อลื่น ได้ดำเนินการอย่างแข็งขันหลายมาตรการเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในการผลิตน้ำมันหล่อลื่น และมุ่งเน้นการรีไซเคิลเพื่อผลิตน้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรมที่ปรับการปล่อย CO2 ให้เหมาะสม เป็นการช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของลูกค้า

The CO2 footprint of a recycled oil is significantly lower compared to the production of fresh oil.

คาร์บอนฟุตพรินต์ของน้ำมันรีไซเคิลต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับน้ำมันที่ผลิตใหม่

(ที่มา: Zeller+Gmelin)

การผลิตน้ำมันหล่อลื่นต้องใช้พลังงานสูง พลังงานจำนวนมากที่ใช้ในการกลั่นน้ำมันดิบไปเป็นน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปซึ่งมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ น้ำมันไฮดรอลิก น้ำยาทาแบบคอนกรีต (กันติดแม่แบบ) น้ำมันตัด และการเจียระไนชิ้นงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ไม่ดีนัก

ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ Zeller+Gmelin ให้ความสำคัญมานานแล้ว สำหรับมาตรการที่ Zeller+Gmelin ปฏิบัติเพื่อลดหรือหยุดการปล่อยคาร์บอนมีดังต่อไปนี้

  • ยกเลิกการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีกรดบอริก เพื่อความยั่งยืน ปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
  • ใช้น้ำมันหล่อลื่นชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาน้ำมันหล่อลื่นจากชีวภาพ ได้แก่ น้ำมันทาแม่พิมพ์คอนกรีต น้ำมันเครื่องตัดหญ้าและเลื่อยไฟฟ้า รวมถึงน้ำมันไฮดรอลิกชีวภาพสำหรับภาคส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะสำหรับงานที่ใช้กลางแจ้ง พยายามเปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบชีวภาพสำหรับน้ำมันหล่อลื่นประเภทใช้แล้วหมดไปที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้
  • ปรับสภาพถังบาร์เรลและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วเพื่อเวียนใช้ในกระบวนการ เป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ในการอนุรักษ์ทรัพยากร เป็นการประหยัดวัสดุและคาร์บอนฟุตพรินต์จากการผลิตถังใหม่ (ถังที่ใช้ในกระบวนการผลิตมีเป็นจำนวนมาก และมีการใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรจุทุกผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิต
  • รีไซเคิลน้ำมันหล่อลื่นกลับมาเป็นวัตถุดิบ โดยกรองน้ำและเศษต่าง ๆ ออกจากน้ำมันที่ใช้แล้วให้สะอาด ตามด้วยการกลั่นซ้ำจนกลายเป็นน้ำมันพื้นฐานที่มีความยั่งยืน น้ำมันที่ผลิตด้วยวิธีนี้ ประหยัดทรัพยากรและใช้พลังงานน้อยกว่า น้ำมันรีไซเคิลให้คาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำกว่าน้ำมันผลิตใหม่มาก

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดบนเส้นทางความยั่งยืนของบริษัท คือ การคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ของตนเอง โดยใช้งบดุล CO2  และการใช้ KEFF Check* ที่ได้รับการยอมรับ 

* KEFF คือ ศูนย์ความสามารถระดับภูมิภาคเพื่อประสิทธิภาพของทรัพยากร

สิ่งที่ถูกวัดได้ ย่อมสามารถจัดการได้ การคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ในส่วนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิตจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ทราบว่ากระบวนการใดที่มีโอกาสในการลดการปล่อยคาร์บอนได้มากที่สุดและควรลงมือทำก่อน

คาร์บอนฟุตพรินต์ของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ คือ อะไร?

คาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์สามารถใช้ประเมินและเปรียบเทียบประสิทธิภาพทรัพยากรของผลิตภัณฑ์ได้ โดยบันทึกการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นในตลอดทั้งวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยตรวจจับจาก

– วัตถุดิบและชุดประกอบสำเร็จรูป (Prefabrication)

– การผลิต

– การจัดจำหน่ายและการขาย

– ระยะการใช้งาน

– การรีไซเคิลและการกู้คืน

การรีไซเคิลช่วยลดต้นทุนในการกำจัดน้ำมันที่ใช้แล้ว

บริษัทอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องทิ้งน้ำมันเก่าที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสมและมีต้นทุน แม้แนวโน้มของการตัดเฉือนโลหะจะใช้การหล่อลื่นในปริมาณน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีน้ำมันที่ใช้แล้วปริมาณมหาศาล การนำกลับไปสู่วงจรรีไซเคิลนั้นไม่เพียงแต่ประหยัดต้นทุนที่มากในการกำจัด แต่ยังปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน 

น้ำมันคุณภาพสูงที่ไม่ละลายน้ำปริมาณมากมักถูกดึงออกไปเก็บในถังพร้อมเศษโลหะต่าง ๆ และจะถูกส่งไปยังบริษัทกำจัดที่แยกเศษโลหะและน้ำมันหล่อลื่นออกจากกัน โลหะถูกรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบ แต่น้ำมันหล่อลื่นมักไม่ถูกรีไซเคิล ตามข้อมูลของบริษัท Zeller+Gmelin การใช้น้ำมันรีไซเคลทประหยัดต้นทุนถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันใหม่ นอกจากนี้ Zeller+Gmelin ยังห้องปฏิบัติการทดสอบน้ำมันหล่อลื่นเพื่อให้แน่ใจได้ว่าน้ำมันหล่อลื่นจะมีคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ 

นอกจากตัวอย่างข้างต้นของการรีไซเคิลวัตถุดิบที่หลีกเลี่ยงคาร์บอนฟุตพรินต์จากการผลิตใหม่แล้ว ยังมีแนวคิดเดียวกันในการรีไซเคิลผงวัสดุสำหรับการพิมพ์ 3 มิติ ตามบทความด้านล่าง 

รีไซเคิลผงโลหะการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า เพิ่มความยั่งยืน

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/

บทความที่น่าสนใจ

About The Author