ปัจจุบันผู้ปกครองมีแนวโน้มที่จะให้ลูกเรียนพิเศษตั้งแต่เด็กในสาขา STEM (Science – Technology – Engineering – Mathematics) หรือ แนวทางการศึกษาที่ได้บูรณาการความรู้ระหว่างศาสตร์สาขาต่าง ๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพื่อนำจุดเด่นแต่ละสาขาวิชามาผสมผสานกันอย่างลงตัว มุ่งเน้นไปที่ทักษะหรือการปฏิบัติจริง
ในประเทศไทยศูนย์เรียนพิเศษต่าง ๆ นอกจากจะมีโรงเรียนสอนพิเศษด้านภาษา คณิต ดนตรีแล้ว ยังมีโรงเรียนแนวพัฒนาสมองเด็กอย่าง LEGO Brick ที่เป็นการต่อเลโก้พ่วงกับกลไกต่าง ๆ ที่เขียนโค้ดขึ้นมา ทั้งหมดนี้ คือ ความพยายามของพ่อแม่ในการให้ลูกได้สัมผัสและอาจมีความชอบเพื่อต่อยอดเรียนรู้ในสายด้านเทคโนโลยีในอนาคต
สำหรับในต่างประเทศนั้น การพิมพ์ 3 มิติ เป็นอีกแขนงหนึ่งใน STEM ที่เด็ก ๆ สามารถศึกษาได้เช่นเดียวกัน เด็กจะได้ทั้งความสามารถ ทักษะ การเรียนรู้ติดตัวไปใช้ต่อได้ในอนาคต
บทความเกี่ยวกับ ทักษะ STEM มีติดตัวทำไม? สำคัญแค่ไหนต่อการพัฒนาประเทศ? (ที่มา: สอวช) ตามลิงก์ด้านล่าง
https://www.nxpo.or.th/th/8880/
คลิปวิดีโอ การปฏิวัติอุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติเริ่มต้นในปี 2009 มีการทำเป็นภาพยนตร์ที่กำลังฉายใน Netflix ชื่อ ‘Print The Legend’v (2014)
แนวความคิดที่ว่า ทุกคนสามารถผลิตสิ่งต่าง ๆ ตามความคิดของตนได้เองเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ คลิปวิดีโอด้านบนนั้นเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องความเป็นมาของการปฏิวัติอุตสาหกรรมการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับช่วงอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในช่วงทศวรรษ 1990 โดยมีตัวละครหลัก คือ สตีฟ จ๊อป และ บิลเกตส์ ทั้งสองขับเคี่ยวกันในวงการคอมพิวเตอร์ และมี 2 แนวคิดที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน คือ แนวทางโอเพ่นซอร์สที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ฟรี ส่วนอีกแนวทาง คือ การจดสิทธิบัตรไอเดียต่าง ๆ และขายในเชิงพาณิชย์
บริษัทด้านการพิมพ์ 3 มิติ ‘MakerBot’ ก่อตั้งเมื่อปี 2009 โดยเริ่มต้นจากแนวทางโอเพ่นซอร์ส* สำหรับฮาร์ดแวร์ ในโครงการ ‘RepRap Project’ โดยมี Bre Pettis เป็นผู้ก่อตั้ง ในเวลาต่อมา MakerBot ได้เปลี่ยนแนวทางเป็นธุรกิจที่เน้นแสวงหากำไร หลังจากที่ได้รับเงินลงทุนเพิ่มจากนักลงทุน VC มีการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยี ในปี 2013 Bre Pettis ได้ขายหุ้นทั้งหมดของ MakerBot ให้กับ Stratasys ยักษ์ใหญ่ในวงการพิมพ์ 3 มิติ ต่อมาในปี 2022 MakerBot ได้ควบรวมกิจการกับ Ultimaker ที่เป็นคู่แข่งกันมายาวนาน
บทความนี้จะเล่าถึงการกลับมาของ MakerBot ภายใต้เจ้าของที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Stratasys โดยถูกวางตำแหน่งใหม่ให้แบรนด์ MakerBot กลายเป็นแบรนด์เพื่อการศึกษาด้านการพิมพ์ 3 มิติ มีบทบาทในการสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ผ่านการฝึกอบรมและขายเครื่องพิมพ์ 3 มิติให้ผู้ใช้กลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน และในอนาคตหากผู้ใช้มีทักษะที่มากขึ้นก็อาจขายเครื่องพิมพ์รุ่นที่สูงขึ้น รวมถึงคุณภาพและราคาก็สูงขึ้นด้วย
*แนวคิดพื้นฐานของโอเพ่นซอร์ส คือ การให้เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทุกคนสามารถช่วยกันพัฒนาต่อยอดได้ ทำให้อุตสาหกรรมพัฒนาไปได้รวดเร็ว แนวทางนี้จะตรงข้ามกับการสร้างเทคโนโลยีที่มีการจดสิทธิบัตรเพื่อทำเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์ ในขณะที่โลกความเป็นจริงนั้นนวัตกรรมต่าง ๆ ต้องการเงินทุนสนับสนุนและต้องการผลตอบแทน จะเห็นได้ว่าในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็น MS Windows หรือ Apple จะมีการจดสิทธิบัตรไอเดีย และกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก
Ultimaker บริษัทการพิมพ์ 3 มิติ ประกาศการเปิดตัว ‘Makerbot’ ใหม่อีกครั้งให้เป็นแบรนด์สำหรับการศึกษาการพิมพ์ 3 มิติโดยเฉพาะ มีโปรแกรมพัฒนาหลักสูตรและการฝึกอบรมการพิมพ์ 3 มิติที่มีความครอบคลุม ตลอดจนให้การรับรองโดย Makerbot ซึ่งในตอนนี้มีในเวอร์ชันภาษาฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน และอังกฤษ
Makerbot Sketch ให้เครื่องมือและอุปกรณ์การพิมพ์แก่นักการศึกษาเพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอนด้านการพิมพ์ 3 มิติ
(ที่มา: Ultimaker)
ยกระดับการเรียนการสอนด้านการพิมพ์ 3 มิติ
Makerbot มีประสบการณ์ในการทำงานกับนักการศึกษามาเป็นเวลามากกว่าสิบปี บริษัททุ่มเทในการยกระดับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ด้านการพิมพ์ 3 มิติ และปฏิวัติวิธีการเรียนการสอนระหว่างครูและนักเรียน นอกจากนี้ Makerbot Education ยังขยับขยายพื้นที่การเรียนการสอนและความเชี่ยวชาญไปยังนักการศึกษาและนักเรียนต่าง ๆ ทั่วโลก โดย Makerbot อยู่ในโรงเรียนและห้องสมุดมากกว่า 10,000 แห่งทั่วอเมริกาเหนือและภูมิภาคอื่น ๆ
“การตอบสนองความต้องการของนักการศึกษาเป็นเป้าหมายหลักของเรา เราเข้าใจดีว่านักการศึกษาต้องการระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์การพิมพ์ และการสนับสนุนเพื่อรับประกันความสำเร็จ นั่นคือเหตุผลที่เรายังลงทุนต่อในการสร้างแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งเพื่อให้นักการศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ Makerbot เป็นแบรนด์เดียวที่ทุ่มเทให้กับการศึกษาและนำเสนอโซลูชันผ่านแพลตฟอร์ม Sketch ที่ไม่เหมือนใครได้” Michiel Alting von Geusau, CEO ของ Ultimaker กล่าว
ระบบ Makerbot Sketch เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการศึกษาด้านการพิมพ์ 3 มิติ โดยให้เครื่องมือและอุปกรณ์การพิมพ์ 3 มิติกับนักการศึกษาหลายพันคนเพื่อใช้กับนักเรียน กุญแจสู่ความสำเร็จของ Makerbot คือ การเรียนการสอนแบบองค์รวมไปสู่การศึกษาการพิมพ์ 3 มิติที่มีแผนการสอน ไอเดียโปรเจกต์ การพัฒนาหลักสูตร การฝึกอบรม การสนับสนุน ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ เพื่อให้นักการศึกษาสามารถยกระดับการเรียนรู้ในชั้นเรียนและเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนได้
การให้การรับรองโดย Makerbot Certification เป็นแนวทางที่ครอบคลุมสำหรับการศึกษาด้านการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อให้นักการศึกษาและนักเรียนได้รับการฝึกอบรมเชิงลึกในการเรียนรู้การพิมพ์ 3 มิติและการคิดเชิงออกแบบ มีครูเกือบ 2,000 คน ลงทะเบียนใน Makerbot Certification และมีนักเรียนมากกว่า 10,000 คน ลงทะเบียนหลักสูตรการคิดเชิงออกแบบ ด้วยการเชื่อมช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีและการเรียนรู้ทำให้โปรแกรมเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็น และให้นักการศึกษาได้ความรู้และความมั่นใจในการศึกษาแบบ STEM
Rahul Chopra ผู้สอนเทคโนโลยีที่ Macdonald Collegiate Institute เมือง Toronto รัฐ Ontario ประเทศแคนาดา กล่าวว่า “Makerbot Certification เป็นประโยชน์มากสำหรับครูผู้สอน เป็นการช่วยให้เข้าใจทีละขั้นตอน ไม่เพียงแต่เรื่องของการพิมพ์ 3 มิติ ยังมีเรื่องของการคิดเชิงออกแบบผ่านกระบวนการเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์จนขั้นสุดท้าย เป็นเครื่องมือที่สนับสนุนการเรียนรู้ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ยากเกินจะเอาชนะ”Click
เครื่องพิมพ์ Makerbot Sketch Series มีแบบ Sketch Standard และ Sketch Large ใช้งานง่าย ออกแบบโดยคำนึงถึงคุณภาพการพิมพ์และความปลอดภัย เครื่องพิมพ์แต่ละเครื่องมีช่องพิมพ์ที่ปิดสนิท มีแผ่นที่ให้ความร้อนและมีความยืดหยุ่น พร้อมอุปกรณ์ดักจับฝุ่นขนาดเล็ก หน้าจอแบบสัมผัส กล้องในตัว และรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ เครื่องพิมพ์สามารถปรับขนาดได้เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ หรือโรงเรียน และยังมีประโยชน์สำหรับครูและนักเรียนทุกระดับชั้น
โปรแกรมการฝึกอบรมการพิมพ์ 3 มิติ เพียงโปรแกรมเดียวที่ได้รับการรับรองโดย International Society for Technology in Education (Iste) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีชื่อเสียงซึ่งอุทิศตนให้กับการศึกษาที่ดำเนินการผ่านเทคโนโลยี Makerbot Certification สำหรับนักเรียนจึงเป็นหลักสูตรเชิงลึกที่มุ่งเน้นไปที่การคิดเชิงออกแบบและการใช้งานพิมพ์ 3 มิติแบบลงมือปฏิบัติจริง ในขณะที่โปรแกรมของนักการศึกษาเน้นที่การสร้างหลักสูตร แผนการสอน ไอเดียโปรเจกต์ และการสอนกระบวนการพิมพ์ 3 มิติ นักการศึกษายังได้รับเครดิตด้านการพัฒนาทางวิชาชีพอีกด้วย โปรแกรมการรับรองนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน อังกฤษ และจะมีภาษาอื่น ๆ อีกมากมายในอนาคต
Makerbot Education ขับเคลื่อนโดยชุมชนการศึกษา มีทั้งแผนการสอน ไอเดียโปรเจกต์ และแรงบันดาลใจในการพิมพ์ 3 มิติหลายร้อยรายการ ได้รับการตรวจสอบเนื้อหาและอนุมัติโดย Makerbot Education เพื่อความพร้อมสำหรับห้องเรียน นักการศึกษาสามารถค้นหาไอเดียและออกแบบการพิมพ์ 3 มิติสำหรับทุกระดับชั้นและสาขาวิชาผ่าน Thingiverse ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลไฟล์ออกแบบดิจิทัลออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ยังมี Makerbot Educators Guidebook ซึ่งเป็นหนังสือที่กล่าวถึงวิธีการพิมพ์ 3 มิติในชั้นเรียน มีบทเรียนต่าง ๆ เกี่ยวกับการพิมพ์ 3 มิติ การออกแบบ 3 มิติ การบูรณาการในชั้นเรียนและโปรเจกต์การพิมพ์ 3 มิติที่พร้อมใช้สำหรับชั้นเรียน ตลอดจนเป็นแหล่งข้อมูลของนักการศึกษาสำหรับการเรียนรู้พื้นฐาน แนวทางในการปฏิบัติ และสำหรับค้นหาโปรเจกต์ที่ได้รับการทดสอบมาแล้วเพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอดในการเรียนการสอนต่อไป
บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/
บทความที่น่าสนใน
- BAC ใช้การพิมพ์ 3 มิติจาก Ultimaker ยกระดับการออกแบบซุปเปอร์คาร์
- 6K Additive ร่วมมือกับ Agile Space Industries พัฒนาวัสดุพิมพ์ 3 มิติเพื่อภารกิจสู่ดวงจันทร์
- ‘เปอร์โยต์’ ปฏิวัติการออกแบบ ใช้การพิมพ์ 3 มิติ ตกแต่งภายในยานยนต์ไฟฟ้า
- ‘PET CF’ วัสดุคอมโพสิตสำหรับการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อให้ชิ้นส่วนแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น
About The Author
You may also like
-
‘Vapor Smoothing’ เทคนิคการทำหลังกระบวนการที่ทำให้ TPU กันน้ำและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ
-
Trumpf ร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านอวกาศ เพื่อภารกิจอวกาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
Quickparts แนะนำทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการรอสินค้า สำหรับการพิมพ์ 3 มิติ
-
Stratasys เพิ่ม 6 วัสดุการพิมพ์ 3 มิติใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
-
Stratasys และ Encee GmbH ร่วมกันขยายโซลูชันการพิมพ์ 3 มิติสู่ภาคส่วนการแพทย์